ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงใหม่นำคำสั่งปิดประกาศปางช้างแก่งกื้ด แม่แตง เชียงใหม่ ให้รื้อถอนสายเคเบิลสลิง และฐานต่างๆ ออก หลังมีคำพิพากษาว่าก่อสร้างเครื่องเล่นซิปไลน์บุกรุกป่าสงวน ขีดเส้นดำเนินการให้เสร็จภายใน 21 เม.ย.นี้ เผยตรวจสอบซิปไลน์ 12 แห่ง ดำเนินคดีแล้ว 6 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (31 มี.ค. 60) นายสายพิณ เปียสวน ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ปางช้างแก่งกื้ด หมู่ 1 ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยนำคำสั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ที่ 62/2560 เข้าไปทำการติดประกาศคำสั่งให้ดำเนินการรื้อถอนสายเคเบิลสลิง และฐานต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากปางช้างดังกล่าวได้มีการก่อสร้างเครื่องเล่นเคเบิลสลิงหรือซิปไลน์ จำนวน 6 ฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ การดำเนินการในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2558 นายสนั่น เผือกพันธุ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.8 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปางช้างแก่งกื้ด พบมีการก่อสร้างเครื่องเล่นเคเบิลสลิง หรือซิปไลน์ จำนวน 6 ฐาน มีความยาวระยะสายเคเบิลทั้งหมด 714 เมตร โดยมีนายดวงงาม ศรีดวงแก้ว รับเป็นเจ้าของ ซึ่งทางคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง อีกทั้งเครื่องเล่นเคเบิลไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้มีการขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่า จึงได้ตรวจยึดเครื่องเล่นเคเบิลสลิงที่บุกรุกพื้นที่ป่า 0-3-75 ไร่ และควบคุมตัวนายดวงงาม ศรีดวงแก้ว ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจแม่แตง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2560 พิพากษาว่านายดวงงาม ศรีดวงแก้ว มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 โดยได้พิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 25,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลยและบริวารออกไปจากบริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งภายหลังจากที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาแล้ว
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จึงใช้อำนาจตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ออกคำสั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ที่ 62/2560 ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 และติดประกาศแจ้งให้นายดวงงาม ศรีดวงแก้ว ดำเนินการรื้อถอนสายเคเบิลสลิงและฐานต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
โดยจะครบกำหนดติดประกาศให้รื้อถอนในวันที่ 21 เมษายน 2560 หากพ้นกำหนดนี้แล้วยังไม่มารื้อถอน ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จะดำเนินการรื้อถอนเอง และจะคิดค่ารื้อถอนจากทางเจ้าของพร้อมเก็บเงินเพิ่มในอัตราร้อยละยี่สิบห้าต่อปี และยังมีความผิดฐานขัดคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่อีกข้อหาหนึ่งด้วย
ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 กล่าวว่า จากที่นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดตรวจสอบเครื่องเล่นเคเบิลสลิงที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยที่จังหวัดเชียงใหม่พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 12 ราย ซึ่งในเบื้องต้นทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้ทำการตรวจยึดดำเนินคดีไปแล้ว 6 ราย ส่วนอีก 6 รายอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารการครอบครองที่ดิน
โดยผู้ประกอบการจะอ้างว่ามีเอกสารการแจ้งครอบครอง หรือ ส.ค. 1 ซึ่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จะประสานงานกับสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบเอกสาร ส.ค. 1 ว่าถูกต้องตรงกับแปลงที่ดินหรือไม่ และจะมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังแต่ละชั้นปีไปจนถึงปี พ.ศ. 2495 ว่าได้มีการเข้าครอบครองทำประโยชน์มาจริงหรือไม่ หากผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่ามีการนำเอกสาร ส.ค.1 จากพื้นที่อื่นมาสวมสิทธิ หรือไม่ได้มีการทำประโยชน์มาก่อน จะถือว่าเอกสาร ส.ค.1 ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า และจะดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาดต่อไป