ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์จับมือประกาศความร่วมมือพัฒนาการท่องเที่ยว หนุนสวนสัตว์ทั่วไทยเป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยว ชูสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นต้นแบบ เผยหลังการผสมเทียม “หลินฮุ่ย” อาจตั้งท้อง เตรียมอัลตราซาวนด์ 24-26 เม.ย. 60 นี้
วันนี้ (31 มี.ค. 60) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ปานเทพ รัตนากร ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์ พร้อมด้วยนายสมบัติ อนันตรัมพร กรรมการองค์การสวนสัตว์, นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์, นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และนายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และวิจัย องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ร่วมกันแถลงความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และความคืบหน้าการผสมเทียมหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย”
โดยในส่วนของความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวนั้น ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ทางกระทรวงฯ เล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพของสวนสัตว์ว่ามีความพร้อมอย่างยิ่งที่ในการที่จะบรรจุเข้าไปอยู่ในแผนบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งทางกระทรวงฯ จะมีการผลักดันและสนับสนุนในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ทั้งการเชื่อมโยงและสร้างความร่วมมือกับทางภาคธุรกิจท่องเที่ยวในการบรรจุสวนสัตว์เข้าไปอยู่ในแผนการท่องเที่ยว รวมทั้งจะมีการเชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ ของกระทรวงฯ กับทางสวนสัตว์ทุกแห่งในประเทศไทยด้วยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะใช้สวนสัตว์เชียงใหม่เป็นต้นแบบในความร่วมมือนี้
ขณะที่ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์กล่าวว่า ในต่างประเทศการท่องเที่ยวในสวนสัตว์เป็นสิ่งที่มีการทำกันอยู่แล้วและเป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งตามความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการสนับสนุนส่งเสริมและบรรจุสวนสัตว์ให้เข้าไปอยู่ในแผนการท่องเที่ยว โดยที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสวนสัตว์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เป็นจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อทุกฝ่าย
สำหรับความคืบหน้าการผสมเทียมหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” นั้น นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และวิจัย องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (31 มี.ค. 60) นับเป็นวันที่ 55 หลังการผสมเทียมแล้ว โดยจากการตรวจวัดระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ทำหน้าที่ควบคุมการตั้งท้องในปัสสาวะของ “หลินฮุ่ย” พบว่ามีการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจะมีการเพิ่มขึ้นอีกเมื่อมีฮอร์โมนที่ผลิตจากรกมาเสริม ดังนั้นในช่วงนี้จึงเป็นช่วงของการเฝ้าระวังจับตาดูภาวะการตั้งท้อง
โดยพฤติกรรมอื่นๆ ของ “หลินฮุ่ย” นั้น หลังจากที่ปล่อยให้อยู่ในส่วนจัดแสดงตามลำพังโดยงดเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จากการสังเกตของเจ้าหน้าที่ดูแลพบว่า “หลินฮุ่ย” มีสภาพอารมณ์และจิตใจแจ่มใสดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงหลังการผสมเทียมในครั้งที่ผ่านๆ มา ขณะเดียวกันพบว่าเริ่มพฤติกรรมนอนมากกว่าปกติเป็นเฉลี่ยวันละประมาณ 18 ชั่วโมง, กินอาหารเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีพฤติกรรมการทำรังโดยการนำวัสดุที่หาได้จากบริเวณส่วนจัดแสดงมารองทำรัง
อย่างไรก็ตาม นอกจากการสังเกตพฤติกรรมภายนอกแล้ว ยังต้องเฝ้าจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางร่ายกายอื่นๆ ที่บ่งบอกถึงการตั้งท้อง เช่น เต้านมและปากมดลูกมีการขยายตัว เป็นต้น
ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตรระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนและพฤติกรรมต่างๆ ของ “หลินฮุ่ย” ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ถือเป็นภาวะปกติของหมีแพนด้าตัวเมียที่เกิดขึ้นหลังการได้รับการผสมเทียม แต่เบื้องต้นไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดการตั้งท้องหรือไม่ ซึ่งต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
โดยตามแผนติดตามความคืบหน้าการผสมเทียมนั้น ทางทีมงานได้กำหนดที่จะทำการตรวจสุขภาพและอัลตราซาวนด์ “หลินฮุ่ย” ในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. 60 นี้ เพื่อตรวจดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของมดลูกว่ามีการขยายหรือมีตัวอ่อนหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งน่าจะทำให้ทราบผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการตั้งท้อง โดยที่ทางทีมงานต่างมีความหวังอย่างเต็มที่ว่าจะประสบความสำเร็จ
