แพร่ - จังหวัดแพร่พร้อมหนุนปั้นศูนย์กลางอนุรักษ์ควายไทย ประธานสภาเกษตรฯ ชี้ สายพันธุ์ควายไทยดีสุด เชื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ในอนาคต หลังจีน-เวียดนามนำเข้าจนไม่พอขาย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมควายไทยล้านนา ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2560” ที่กรมปศุสัตว์, สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และเกษตรกรเครือข่ายสนใจเลี้ยงควายในประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เย็นวานนี้ (30 มี.ค.)
ซึ่งมีผู้เลี้ยงควายทั่วประเทศส่งควายไทยเข้าประกวด และโชว์ในงานมากกว่า 1,000 ตัว มีทั้งลูกควาย แม่ควาย และควายเพศผู้ ในจำนวนนี้มีควายที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ มูลค่าตัวละนับล้านบาทขึ้นไปด้วย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จังหวัดแพร่มีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์พันธุ์ควายของภาคเหนือ เนื่องจากมีเกษตรกรที่สนใจเลี้ยงจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บ้านแม่ทราย อ.ร้องกวาง จ.แพร่ และเกษตรกรในอำเภอต่างๆ ก็นิยมเลี้ยงด้วยเช่นกัน ซึ่งจังหวัดฯ พร้อมที่จะสนับสนุนด้านบุคลากร และงบประมาณทำให้จังหวัดแพร่เป็นแหล่งอนุรักษ์ควายไทยล้านนาต่อไป
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ควายไทยนับเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เลี้ยงกันมานาน แต่ปัจจุบันมีจำนวนลดลงจนไม่เพียงพอในตลาดบริโภค ทั้งที่ควายไทยเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีสายพันธุ์ดีกว่าที่อื่นๆ ทั่วโลก แต่นักปศุสัตว์ไทยในอดีตให้ความสำคัญต่อสายพันธุ์ต่างประเทศมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันควายไทยได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ตลาดต้องการสูง ด้วยคุณสมบัติที่ดีของเนื้อ และสามารถนำไปใช้งานได้ด้วย ในฐานะของสภาเกษตรกร ต้องบอกว่าควายไทยเป็นสัตว์เศรษฐกิจดั้งเดิมนานมาก เป็นสัตว์ที่คนไทยคุ้นเคย บริโภคง่าย เลี้ยงง่าย และที่สำคัญเป็นพันธุกรรมท้องถิ่นที่ดี
“อนาคตควายจะสามารถสร้างเศรษฐกิจได้ เนื่องจากในจีนและเวียดนามให้ความสนใจนำเข้าควายไทยเป็นจำนวนมาก จนไม่เพียงพอในปัจจุบัน”