ปราจีนบุรี - ชาวบ้านเซ็ง หลังเกิดเหตุน้ำเน่าเสียในคลองพระปรง ติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้สัตว์น้ำจำนวนมากลอยตายเกลื่อน เชื่อสาเหตุจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่บริเวณพื้นที่ต้นน้ำลอบปล่อยสารเคมีลงคลอง ด้านผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว
วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายวิทวัฒน์ นาแรมงาม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลย่านรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ว่า ที่บริเวณคลองพระปรง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลย่านรี ได้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียจนทำให้สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง และปลานานาชนิดลอยตายเต็มคลอง และจากการตรวจสอบบริเวณริมเขื่อนหน้าวัดสิกขวัฒนาราม (บ้านซ่ง) ยังพบว่า แม่น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีชาเข้ม และมีฝ้า บริเวณผิวน้ำยังพบปลาจำนวนมาก รวมทั้งกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ลอยตายเต็มลำคลอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
โดยพบว่าเบื้องต้น องค์การบริหารส่วนตำบลย่านรี ต้องนำเครื่องเติมอากาศเข้าตีน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ และให้เจ้าหน้าที่ขับเรือหางยาววิ่งไปมาเพื่อให้น้ำหมุนเวียน
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า คลองพระปรง เป็นลำคลองที่เชื่อมต่อมาจากจังหวัดสระแก้ว ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี นอกจากนั้น ยังทราบว่าพื้นที่ต้นน้ำของคลองพระปรง มีโรงงานอุตสาหกรรมเกือบ 10 โรงงาน ชาวบ้านจึงเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะการปล่อยน้ำเสีย และสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมลงสู่คลอง จนทำให้น้ำเน่าเสียเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งในปีนี้ได้เกิดเหตุการณ์น้ำเน่าเสียถึง 2 ครั้งแล้ว
ด้าน นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้สั่งการให้ชลประทานจังหวัด เร่งระบายน้ำ และผลักดันน้ำจากเดิม 100,000 คิว เป็น 300,000 คิว เพื่อให้ปัญหาน้ำเน่าเสียเบาบางลง และยังได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัด และกรมควบคุมมลพิษนำน้ำ และพื้นเลนใต้น้ำไปตรวจสอบหาสารพิษ พร้อมทั้งให้ชลประทานจังหวัด จัดทำแผนขุดลอกโคลนเลนใต้น้ำเพื่อชำระสิ่งสะสมที่อยู่ในพื้นน้ำออกให้หมด ขณะเดียวกัน ก็ได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ร่วมบูรณาการหาเครื่องเติมอากาศ เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวของน้ำอีกด้วย