บุรีรัมย์ - ญาตินำศพสาวคุรุสภาที่ถูกหนุ่มหึงโหดใช้ปืนยิงเสียชีวิตหน้า สกสค.กระทรวงศึกษาธิการ กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.บุรีรัมย์แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว แม่และพี่ชายร่ำไห้ เผยรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลั่นไม่ต้องมากราบขอขมาศพ อยากให้ประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน
วันนี้ (30 มี.ค.) จากกรณีที่หนุ่มหึงโหดใช้อาวุธปืน 9 มม.กระหน่ำยิง น.ส.วาสนา บุระคร หรืออ้อ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ซี 4 ฝ่ายทะเบียนการเงินการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม คาสนามหน้าสำนักงาน สกสค. กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุเพราะง้อขอคืนดีไม่สำเร็จนั้น
ล่าสุดญาติได้นำศพของ น.ส.วาสนา บุระคร กลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด เลขที่ 104 ม.5 บ้านขามน้อย ต.เย้ยปราสาท อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางสมหวัง บุระคร อายุ 66 ปี ผู้เป็นแม่ ถึงกับเป็นลมล้มพับทันทีที่ศพของลูกสาวกลับมาถึง เพราะ น.ส.วาสนาเป็นลูกคนสุดท้องและลูกสาวคนเดียวของครอบครัวทั้งเป็นคนที่คอยดูแลพ่อกับแม่ เพราะที่เหลืออีก 3 คนเป็นผู้ชายและแต่งงานมีครอบครัวทั้งหมดแล้ว
โดยครอบครัวมีกำหนดจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านถึงวันศุกร์ที่ 31 มี.ค. และจะฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 1 เม.ย. ที่วัดบ้านขามน้อย ต.เย้ยปราสาท
นางสมหวัง บุระคร แม่ของ น.ส.วาสนา กล่าวว่า น.ส.วาสนาเป็นลูกสาวคนสุดท้อง จากลูกทั้งหมด 4 คน และเป็นคนคอยดูแลพ่อกับแม่ เพราะพี่ชายทั้ง 3 มีครอบครัวและทำงานอยู่ต่างจังหวัด ที่ผ่านมา น.ส.วาสนาจะกลับมาบ้านเพื่อดูแลพ่อกับแม่ทุก 2 สัปดาห์ หรือช่วงที่ว่างงาน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเพราะอาจกลัวแม่คิดมาก เพราะตนอายุมากแล้วประกอบเคยผ่าตัดเนื้องอกในสมองทำให้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำใจไม่ได้ที่ต้องมาสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก และอยากให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัวเพื่อชดใช้ความผิดกับสิ่งที่ตนเองกระทำ
ด้าน นายนครินทร์ บุระคร อายุ 38 ปี พี่ชายของ น.ส.วาสนา ผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ปัจจุบันรับราชการอยู่สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งที่ จ.อำนาจเจริญ ตนสนิทกับน้องสาวมาก มีเรื่องอะไรน้องจะโทรศัพท์ไปปรึกษาหรือเล่าให้ฟังตลอด ซึ่งที่ผ่านมาน้องสาวเคยเล่าให้ฟังว่าถูกผู้ก่อเหตุข่มขู่จะทำร้ายและเอาชีวิตหลายครั้ง เพราะน้องสาวพยายามตีตัวออกห่างหลังทราบว่าชายคนดังกล่าวมีภรรยาแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้
“หากผู้ก่อเหตุมามอบตัวหรือเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ ก็ไม่ต้องการให้มากราบขอขมาศพเพราะครอบครัวไม่มีใครยอมรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด หากเป็นไปได้อยากให้ประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน ขอให้ได้รับกรรมกับสิ่งที่กระทำ” นายนครินทร์กล่าวในตอนท้าย