จันทบุรี - 2 อำเภอ เมืองจันท์ สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองลงพื้นที่คุมเข้มตรวจสอบโรงเก็บสารโพแทสเซียมคอเรต ระเบิดจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อป้องกันการเหตุระเบิดซ้ำ
วันนี้ (29 มีค) เมื่อเวลา 09.00 น. ความคืบหน้าจากเหตุสารเร่งลำไย หรือสารโพแทสเซียมคอเรต ระเบิด ทำให้มีเจ้าของสวน และแรงงานรวม 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ล่าสุด นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสอยดาว และอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้สนธิกำลังร่วมกับร้อยรักษาความสงบที่ 3 กองทัพเรือ ตำรวจ เกษตรอำเภอ และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทเนินทองพืชผล ที่เป็นโรงเก็บสารโพแทสเซียมคอเรต หรือสารเร่งลำไย ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจดูใบอนุญาตว่าบริษัทดังกล่าวมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งดูระบบการป้องกันห้องเก็บสารทั้ง 5 โกดัง ของโรงเก็บสารโพแทสเซียมคอเรต ว่า มีระบบการป้องกันที่ดีมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทแห่งนี้ที่มีโรงเก็บสารโพแทสเซียมคอเรต ที่มี นายศราวุธ เหมนิธิ ที่เป็นผู้จัดการ มีระบบการจัดการป้องกันที่ดี เช่น การติดตั้งสปริงเกอร์ ระบบระบายอากาศ และการทำคันดินล้อมรอบโกดังเก็บสารทั้ง 5 โกดัง ซึ่งไม่เป็นอันตราย และมีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ การที่หลายหน่วยงานได้สนธิกำลังเข้ามาตรวจสอบโรงเก็บสารโพแทสเซียมคอเรตแห่งนี้ ก็เพื่อคุมเข้มป้องกันเหตุระเบิดซ้ำ
เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนเหตุการณ์เมื่อวาน ที่เจ้าของสวน และแรงงานกำลังช่วยกันเตรียมผสมสารเร่งลำไยเพื่อเตรียมไว้ราดต้นลำไยแล้วก็เกิดระเบิดขึ้นจนทำให้เจ้าของสวน และแรงงานทั้ง 3 คน โดนแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น สาเหตุมาจากความประมาทที่เกิดจากแรงงานมีการสูบบุหรี่ และทำให้ขี้บุหรี่เกิดไปหล่นใส่สาร ทำให้เกิดการระเบิดขึ้น ก่อนที่ชาวบ้านจะมาพบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว ทั้งนี้อาการผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ปลอดภัยดีแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโป่งน้ำร้อนอีกสักระยะหนึ่ง
ในเรื่องนี้ นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสอยดาว กล่าวว่า วันนี้ในหลายหน่วยงานได้มีการเดินทางมาตรวจโรงเก็บสารโพแทสเซียมคอเรต ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในความควบคุมตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ ซึ่งมาตรวจดูการเก็บรักษาอยู่ในสถานที่มั่นคง ปลอดภัย ตามคลังที่จัดไว้หรือไม่ รวมทั้งมาตรวจจำนวนสารที่รับมาเก็บไว้ หรือการจำหน่ายจ่ายแจกไปมีจำนวนตรงตามบัญชีหรือไม่ และมาประชาสัมพันธ์ว่า สารนี้เป็นสารที่ทำอันตราย หรือมีอันตรายในการนำไปใช้ผิดประเภทได้ ซึ่งได้มาตรวจ และมาให้ความรู้แก่ผู้ครอบครองคลัง