บุรีรัมย์- ผู้ขับขี่ จยย.พ่วงข้างรับจ้างวินด่านช่องสายตะกู บุรีรัมย์ กว่า 80 ราย มีรายได้ให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวปชช.ทั้งชาวไทยและกัมพูชามาเที่ยวและซื้อสินค้าวันละ 200-300 บาท เรียกร้องรัฐบาล -คสช. ยกระดับเป็น“ด่านผ่านแดนถาวร” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนสร้างรายได้ท้องถิ่น ด้าน “วีระ สมความคิด” เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ความจริง บ่อนกาสิโน ฉาว พรุ่งนี้ ( 29 มี.ค.)
วันนี้ (28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา หลังเปิดทำการซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคสินค้าเกษตร และได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกันทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. มาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 ได้มีประชาชนทั้งชาวไทย และกัมพูชา เดินทางมาเที่ยวซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันอย่างคึกคักเฉลี่ยวันละกว่า1,000 คน
ส่งผลให้ยอดเงินสะพัดเฉลี่ยสัปดาห์ละกว่า 5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงที่เปิดเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อมนุษยธรรมกว่า 3 เท่า ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นพืชผัก ผลไม้ อาหารพื้นบ้าน ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มจะมีประชาชนเดินทางมาเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้าที่ช่องสายตะกูดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารพราน และ อส. ในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ได้ร่วมกับทหาร และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของฝั่งกัมพูชา ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมตรวจตราสัมภาระสิ่งของและผู้ที่ผ่านเข้า-ออก อย่างเข้มงวดด้วยเช่นกัน
จากกระแสตอบรับของประชาชนในการเปิดจุดผ่อนปรนดังกล่าว ทำให้ผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับจ้างที่จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ที่มีสมาชิกกว่า 80 ราย มีรายได้จากการให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ประชาชนทั้งชาวไทย และกัมพูชา ที่เดินทางมาเที่ยว และจับจ่ายซื้อสินค้าที่ช่องสายตะกู มีรายได้วันละ 200 - 300 บาท หากเป็นวันศุกร์ มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งคิดอัตราค่าโดยสาร คนละ 10 บาท เด็กฟรี แต่ละเที่ยวนั่งได้ 4 คน
ด้าน นายประเสริฐศรี จำปาทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 13 บ.โคกระเหย ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ประธานชมรมวินรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับจ้างช่องสายตะกู กล่าวว่า ชมรมมีสมาชิกกว่า 80 คน โดยแบ่งกันวิ่งเรียงเป็นคิวก่อนหลัง ทำให้มีรายได้คันละ 200-300 บาท หากเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว
จึงอยากจะเรียกร้องให้ทางรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พิจารณาอนุมัติให้ยกระดับจากจุดผ่อนปรนจากการค้าช่องสายตะกู เป็นด่านผ่านแดนถาวร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวชายแดน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น
ส่วนกรณีที่ นายวีระ สมความคิด จะลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ความจริงกรณีบ่อนกาสิโนที่ด่าน ช่องสายตะกู และกำลังจะเปิดบ่อนในวันที่ 7 เม.ย.นี้นั้น เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ส่วนตัวแล้วเกรงว่าจะเกิดผลกระทบด้านความสัมพันธ์ของสองประเทศ และส่งผลกระทบกับการค้าซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้ นายวีระ สมควรคิด ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ อ.บ้านกรวด แล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่ด่านช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร ในวันพรุ่งนี้ ( 29 มี.ค.) เพื่อเข้าตรวจพิสูจน์ความจริงกรณีที่อ้างว่าบ่อนคาสิโนที่กำลังก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน
