บุรีรัมย์ - จังหวัดบุรีรัมย์รับสาววัย 20 ปีตั้งครรภ์ 4 เดือนและมีลูกอีก 2 คน ที่ถูกสามีเมาสาดน้ำกรดใส่หน้าเสียโฉม ตาใกล้บอด เป็นผู้ป่วยมูลนิธิ พอ.สว. เพื่อทำการดูแลรักษาฟรีให้สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ขณะ พมจ. ร่วมกับ รพ.เร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจ และประสานช่วยเหลือทุนการศึกษาด้วย
จากกรณี น.ส.วันเพ็ญ เรืองรัตรัมย์ อายุ 20 ปี ชาวบ้านโสน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 4 เดือน ทั้งมีลูกชายอีก 2 คน วัย 4 ขวบ และ 1 ขวบ 7 เดือน ที่ถูกสามีซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาใช้น้ำกรดสาดใส่ใบหน้าและลำตัว เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าถูกน้ำกรดกัดจนเสียโฉม และดวงตาข้างขวาก็แทบจะมองไม่เห็นอาจมีโอกาสตาบอด ต้องใช้ผ้าปิดไว้ตลอดเวลา
ทำให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองและลูกได้อย่างปกติ ส่วนสามีที่ก่อเหตุก็ถูกดำเนินคดีฝากขังอยู่เรือนจำจังหวัด
ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับหลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมให้กำลังใจและหาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งจากการพูดคุยหารือร่วมกันหลายภาคส่วนก็ได้พิจารณารับ น.ส.วันเพ็ญ หญิงสาวเคราะห์ร้ายคนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยของมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. เพื่อดูแลช่วยเหลือเรื่องการรักษาบาดแผลที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำกรดสาด ทั้งการรักษาดวงตา
รวมถึงการศัลยกรรมใบหน้าด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยในช่วงการรักษาก็จะดูแลทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหารระหว่างที่เดินทางไปรักษาด้วย เพื่อให้ น.ส.วันเพ็ญสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ
ขณะที่ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดก็ได้ร่วมกับโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และสาธารณสุขจังหวัด เพื่อประสานเรื่องการส่งตัว น.ส.วันเพ็ญไปรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราช และเร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจ และวางแผนการดำเนินชีวิต รวมถึงประสานเรื่องทุนการศึกษาให้แก่บุตรของ น.ส.วันเพ็ญด้วย
ซึ่งหลังจากเป็นข่าวแพร่สะพัดออกไปได้มีหลายภาคส่วนยื่นมือให้การช่วยเหลือ ก็พบว่าสภาพจิตใจของ น.ส.วันเพ็ญดีขึ้น ต่างจากช่วงแรกๆ ที่สภาพจิตใจค่อนข้างแย่เนื่องจากรับไม่ได้ต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น