พระนครศรีอยุธยา - รองนายก อบต.ข้าวเม่า จ.พระนครศรีอยุธยา นำสื่อมวลชนตรวจสอบวัดโกโรโกโส อยุธยา หลังถูกชาวบ้านในพื้นที่โวยอาวาสวัดฯ แอบอนุมัติเปลี่ยนสี “หลวงพ่อแก้ว” พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ประดิษฐานในอุโบสถ จากสีดำเป็นสีทอง โดยไม่ถามความเห็นก่อน
วันนี้ (27 มี.ค.) นายสมพร คามีศักดิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลข้าวเม่า ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดโกโรโกโส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมคลองข้าวเม่า ม.5 ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ทางวัดได้ทำการบูรณะเปลี่ยนสี “หลวงพ่อแก้ว” หรือหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ
จากเดิมองค์พระเป็นสีดำ ให้กลายเป็นสีทอง ทำให้ชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และไม่เห็นด้วยต่อการกระทำดังกล่าว ที่สำคัญยังเป็นการกระทำไม่มีการจัดทำประชาคมจากชาวบ้าน ว่าเห็นควรให้มีการเปลี่ยนสีองค์พระหรือไม่ โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่า ทางวัดได้ดำเนินการบูรณะเปลี่ยนสี “หลวงพ่อแก้ว” จนกลายเป็นสีทองจริง
จากการสอบถาม พระครูปลัดกิ่ง คุณวโร อายุ 83 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดโกโรโกโส ทราบว่าสาเหตุที่ทางวัดต้องทำการเปลี่ยนสีองค์หลวงพ่อแก้ว หรือหลวงพ่อดำ เนื่องจากญาติโยมจากกรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางมาทำบุญที่วัดเห็นว่าองค์หลวงพ่อแก้ว ทรุดโทรม จึงเสนอที่จะบูรณะและทาสีองค์หลวงพ่อใหม่ให้เป็นสีทอง ซึ่งทางวัดก็เห็นว่าองค์หลวงพ่อมีความเก่า และทรุดโทรมจริง จึงเห็นควรให้ญาติโยมทำการบูรณะใหม่ ทั้งนี้ หากชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็ยินดีที่จะเปลี่ยนสีให้กลับไปเป็นสีเดิม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วัดโกโรโกโส ถือว่าเป็นวัดร้าง และอยู่ในความปกครองของวัดสะแก โดยที่ผ่านมา เจ้าคณะตำบลธนู ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เป็นประธานในการบูรณะปฏิสังขรณ์ตัววิหารหลวงพ่อดำ และซ่อมแซมเขื่อนที่กำลังทรุด และพังทลาย รวมทั้งอนุรักษ์โบราณสถาน โดยได้รับงบประมาณจากภาครัฐในการจัดสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งอีกกว่า 7 ล้านบาท