ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ทหารนำกำลังรื้ออาคารที่พักรีสอร์ต “ทับเทวัญ” 10 หลังริมเขื่อนอุบลรัตน์ หลังตรวจพบบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง เจ้าของยังแถทำมา 15 ปี สร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวบ้านมากมาย ซ้ำยังถูกเลือกปฏิบัติเพราะยังมีร้านค้าธุรกิจและบ้านเรือนอีกกว่า 500 รายที่สร้างในเขตเขื่อนอุบลรัตน์แต่ยังอยู่ต่อกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายวันนี้ (27 มี.ค.) พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ.23 ในฐานะรอง ผบ.กกล.รส.จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบพื้นที่ขอนแก่น นายเจษฎา ตันติบัญชาชัย นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติน้ำพอง เขื่อนอุบลรัตน์ นำกำลังเข้ารื้อถอนอาคารที่พักของรีสอร์ต “ทับเทวัญ” เลขที่ 338 ม.3 ต.เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีนายคงฤทธิ์ นามเส และนายภูพาน นามเส เป็นเจ้าของ
พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ.23 เปิดเผยว่า ในราวช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2557 มีประชาชนในพื้นที่ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์เข้าร้องเรียน ต่อ กกล.รส.จ.ขอนแก่น ว่ามีนายทุนก่อสร้างรีสอร์ตบนภูเขาขอให้เข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับการร้องเรียนจึงได้รายงานไปยังนายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นขณะนั้น รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กฟผ. ป่าไม้ นายอำเภอ และเทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ารีสอร์ตดังกล่าวมีการบุกรุกและสร้างที่พักอาศัยจริง
พ.อ.สมชายระบุว่า การก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยดังกล่าวเป็นการบุกรุกยึดครองที่ดินของรัฐพื้นที่หัวงานและที่ดินอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ในพื้นที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างบ้านพักอาศัยเพื่อแสวงหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยให้บริการที่พักในรูปแบบรีสอร์ต รวม 22 หลัง เป็นของรีสอร์ตทับเทวัญ 10 หลัง อาคารที่ทำการ และห้องประชุม ร้านอาหาร เนื้อที่ 1.5 ไร่ ส่วนอีก 12 หลังเป็นของกรีน เลควิว รีสอร์ต สร้างกินพื้นที่ 1ไร่
การเข้ารื้อถอนครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามขั้นตอนของตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 59 ได้มีการปิดคำสั่งรื้อถอนอาคาร ที่กรีน เลควิว รีสอร์ต และทับเทวัญรีสอร์ต ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อให้เจ้าของรีสอร์ตรื้อถอนอาคารเอง แต่ทางทับเทวัญรีสอร์ตไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ขณะที่ กรีน เลควิวนั้น ได้มีการรื้อถอนตามคำสั่งไปแล้วบางส่วน ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่จะต้องรื้อถอนเอง
ด้านนายเจษฏา ตันติบัญชาชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีประชาชนร้องเรียนเข้ามา ในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่ามีนายทุนรุกพื้นที่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ทั้งยังมีการขยายพื้นที่ก่อสร้างอาคารเพื่อประกอบธุรกิจการบริการโดยไม่ขออนุญาต เป็นการบุกรุกเขตพื้นที่ป่าสงวนของอุทยานแห่งชาติน้ำพองและติดเขื่อนอุบลรัตน์จริง
“เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์จึงได้มีคำสั่งให้รื้อถอนรีสอร์ต แต่ทางเจ้าของได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอนแก่นเพื่อชะลอทุเลาคำสั่งการรื้อถอน ต่อมาศาลปกครองขอนแก่นได้ยกคำร้องการขอทุเลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที” นายเจษฏากล่าว และว่า นอกจากนี้ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ดำเนินการทางกฎหมาย เช่น อำเภออุบลรัตน์ แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตามความผิด พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 ฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ส่วนการไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ ได้ดำเนินคดีบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ
ขณะที่นายภูพาน นามเส อายุ 38 ปี เจ้าของรีสอร์ตทับเทวัญ กล่าวว่า ภายหลังมีคำสั่งของศาลเมื่อปี 2559 ทางตนก็ได้หยุดกิจการและขณะนี้อยู่ระหว่างการฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะบ้านพักที่สร้างขึ้นเป็นที่อยู่อาศัยเหมือนกับคนอื่นๆ ที่สำคัญกิจการรีสอร์ตนี้ได้ทำมานานกว่า 15 ปี สร้างประโยชน์ สร้างรายได้ให้ชาวบ้านมากมาย
“ถือว่าเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติ เพราะเท่าที่เห็นมีการสร้างร้านค้า สร้างที่อยู่อาศัยในพื้นที่ของเขื่อนอุบลรัตน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอีกกว่า 500 ครอบครัว” นายภูพานกล่าวอ้าง
