บุรีรัมย์- ชุด “พิทักษ์บุรีรัมย์” ตำรวจ ทหาร ตชด.และฝ่ายปกครองบุรีรัมย์ ร่วมกวาดล้างรวบยกแก๊งค้ายาเสพติดได้ผู้ต้องหา 10 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 12,000 เม็ด ไอซ์ 3.74 กรัม เผยเป็นนักค้ายาในพื้นที่ 8 ราย และอีก 2 รายทำหน้าที่รับจ้างขนยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาส่ง
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร ผบ.ร้อย ตชด.216 ร่วมกันแถลงผลงานของเจ้าหน้าที่ชุด “พิทักษ์บุรีรัมย์” ซึ่งเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตชด. และฝ่ายปกครอง ได้ระดมกำลังกวาดล้างจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ห้วงระหว่างวันที่ 17-22 มี.ค. โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้จำนวน 10 คน เป็นนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ 8 คน และอีก 2 คนเป็นพี่น้องชาว จ.อำนาจเจริญ ที่รับจ้างขนยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนมาส่งให้นักค้ายาเสพติดชาว จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 12,412 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 3.74 กรัม
ทั้งนี้ หลังจากชุดพิทักษ์บุรีรัมย์ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายณัฐวัฒน์ หรือนัท เรืองรัมย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.1 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.พลับพลาชัย กับ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จึงได้ทำการล่อซื้อ และ จนสามารถจับกุม นายณัฐวัฒน์ หรือนัท ได้ในพื้นที่ ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย พร้อมของกลางยาบ้า 85 เม็ด
โดยนายณัฐวัฒน์ได้ซัดทอดว่ายาเสพติดดังกล่าวรับมาจากนายวันชัย หรือเต๋า ชนะมาร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 ม.7 ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีภรรยาอยู่ในพื้นที่ ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย และได้มาเช่าห้องพักแห่งหนึ่ง อยู่ในซอยข้างโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อจำหน่ายยาเสพติด จึงทำการขยายผลเข้าจับกุมที่ห้องพักหลังดังกล่าวได้พร้อมของกลางยาบ้า 195 เม็ด
จากนั้นขยายผลจับกุมเครือข่ายดังกล่าวต่อ คือ นายประธาน หรือแบงค์ จิตรัมย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.19 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ที่บริเวณโรงจอดรถโรงแรมจันทนา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 32 เม็ด
ขยายผลการจับกุมต่อโดยล่อซื้อยาไอซ์จากนายไชยทัศน์ หรือเอ็ม ธีรพันธ์สกุล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/15 ธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 1.59 กรัม ได้ที่บริเวณ ฝั่งตรงข้ามร้านเต็กแซโอสถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แล้วขยายผลจับกุมนายณัฐวุฒิ หรือแบงค์ นุรักรัมย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่144/14 ถนนนิวาศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ได้พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนัก 2.15 กรัม
จากนั้นทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายภูริช หรือหยก เลยกลาง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282 ม.10 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า 196 เม็ด ได้ที่บริเวณใต้ต้นไทรริมสระน้ำ ด้านหลังสำนักงานเทศบาลตำบลคูเมือง และเข้าตรวจค้นที่ห้องพักหมายเลข 12 สบายดีรีสอร์ท บ้านโคกสะอาด ม.7 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ยาบ้าอีกจำนวน 1,796 เม็ด
ต่อจากนั้นได้ทำการขยายผลต่อและสามารถจับกุมตัวนายไชยรัตน์ หรือมาร์ค ศุลีพร อายุ 19 อยู่บ้านเลขที่ 87/22 ถนนนิวาศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้พร้อมของกลางยาบ้า 193 เม็ด ที่บ้านพักหลังดังกล่าว
นอกจากนี้ยังสืบสวนทราบว่า นายไชยรัตน์ หรือมาร์ค ยังได้สั่งซื้อยาบ้าจากชาวลาวโดยนัดหมายรับมอบยาบ้า ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 132 ถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในเวลาประมาณ 02.00 น.(22 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการดักซุ่มและวางแผนสกัดจับกุม โดยขณะนั้นพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน กท 1768 อุบลราชธานี ขับผ่านเข้ามาแล้วชะลอความเร็วลง พร้อมโยนวัตถุออกจากนอกตัวรถ ไปที่บริเวณหลักกิโลเมตรดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ดักซุ่มอยู่จึงเข้าไปตรวจสอบดูพบเป็นยาบ้า จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ดักซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ ไล่ติดตามรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ที่พยายามขับหลบหนีผ่านมาทางแยกเสนศิริอนุสรณ์ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ก่อนมุ่งหน้าไปทางแยกกระสัง บ้านกระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดบริเวณแยกกระสัง แต่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวสามารถหลบหนีออกจากวงล้อมไปได้ และขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางโรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ก่อนถูกชุดจับกุมสกัดจับได้ที่บริเวณบ้านโคกไม้แดง ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยผู้ต้องหาได้จอดรถทิ้งไว้และวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายวัชระ หรือต้น ศุภศร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.11 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นคนขับรถ กับ นายมานะ หรือตั้ม ศุภศร อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นน้องชายนายวัชระ ส่วนนายศุภชาติ ศุภศร ซึ่งเป็นน้าชายและเป็นผู้โทรศัพท์สั่งการ ได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้
นายวัชระให้การยอมรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของ นายสนอง พงษ์สุระ กับเจ๊น้อย เมียนายสนอง และนายแดง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นผู้ว่าจ้างให้น้าชายของตนที่หลบหนีไปได้ ขับรถยนต์เก๋งของนายสนอง นำยาบ้าดังกล่าวมาส่งให้กับลูกค้าจำนวน 4 จุด คือ อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี, อ.รัตนะ จ.สุรินทร์ ,อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
นายสนอง พร้อมเจ๊น้อย และนายแดง ได้นั่งรถยนต์กระบะนิสสัน นำทางและสังเกตเส้นทางที่จะนำยาบ้ามาส่ง และได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายศุภชาติ น้าชายของตนที่นั่งรถมากับตน เพื่อสั่งการว่าจะให้นำยาบ้าไปวางไว้ให้ลูกค้าในจุดใดบ้าง ซึ่งได้วางตามจุดต่างๆ จนครบ กระทั่งจุดสุดท้ายที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และมาถูกเจ้าหน้าที่ไล่จับกุมได้ดังกล่าว