xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมยกระดับ จ.จันทบุรี สู่การเป็นมหานครผลไม้หลังมาตรฐานผลิตยังดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จันทบุรี - ที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ติดตามสถานการณ์ผลไม้ โดยเฉพาะ 4 ผลไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ มั่นใจคุณภาพการผลิตยังได้มาตรฐาน ขณะที่ความต้องการของตลาดทั้งใน และ ตปท.มีแนวโน้มสูงขึ้น และยังเตรียมเสนอให้มีการยกระดับ จ.จันทบุรี สู่การเป็นมหานครผลไม้และศูนย์รวมผลไม้เขตร้อนในภูมิภาคตะวันออก

วันนี้ (21 มี.ค.) นายอรัญ วงศ์อนันต์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการป้องกันแก้ไขปัญหาผลผลิตผลไม้ ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี โดยมี นางมารศรี ติปยานนท์ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนผู้ประกอบการผลไม้ส่งออก และภาคเอกชน เพื่อหาข้อสรุปแนวทาง และมาตรการกระจายสินค้าผลไม้ของเกษตรกรไปยังตลาดปลายทาง ซึ่งในปีนี้มีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้นทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ

โดยการกระจายผลไม้สำหรับตลาดในประเทศนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนเชื่อมโยงกระจายผลไม้จากแหล่งผลิตไปยังตลาดปลายทางทั่วทุกภูมิภาค เพื่อเพิ่มช่องทางสินค้าที่จะกระจายสู่ผู้บริโภคให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และในเบื้องต้น จะมีการเปิดจุดจำหน่ายผลไม้และสินค้าแปรรูปทางการเกษตรที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นฐานกระจายสินค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจีนตอนใต้ ลาว และพม่า

อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังเห็นด้วยต่อการยกระดับจังหวัดจันทบุรี ให้เป็นมหานครผลไม้ และเป็นศูนย์รวมของผลไม้เขตร้อนในภูมิภาคตะวันออก เพื่อสร้างความมั่นใจ และส่งเสริมมาตรฐานสินค้าคุณภาพสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ส่วนรายละเอียดจะนำเสนอรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนเดินหน้ายกระดับจังหวัดจันทบุรี สู่การเป็นมหานครผลไม้ต่อไป

สำหรับในปี 2560 สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้คาดการณ์ผลผลิตผลไม้เศรษฐกิจ 4 ชนิดของจังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วย ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ว่า จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 530,730 ตัน โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน

โดยทุเรียน จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 281,393 ตัน เงาะ ประมาณ 124,148 ตัน มังคุดประมาณ 79,962 ตัน และลองกอง ประมาณ 45,228 ตัน และได้มีการขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรให้รักษาคุณภาพ และมาตรฐานการผลิตให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้แก่ประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น