อุบลราชธานี - ชุดสืบสวนอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นำหมายศาลจังหวัดบุกรวบ “ต้น เงินกู้” แก๊งเงินกู้โหดบุกใช้ไม้ตีลูกหนี้เจ็บสาหัส และใช้ปืนยิงเบ้าตาขาใหญ่ลูกพี่คนเจ็บที่เข้าช่วยเคลียร์ตายคาที่ สาเหตุติดหนี้พนันบอลแล้วไม่ยอมจ่าย เบื้องต้น ให้การปฏิเสธไม่ได้ทำ แต่อาจเป็นแก๊งจากอำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่คนเจ็บมีปัญหาอยู่ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ พร้อมตามจับคนที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
จากกรณีแก๊งทวงหนี้โหดจังหวัดอุบลราชธานี 5-6 คน ขับรถกระบะ 4 ประตู มาตามทวงหนี้ในงานบุญประจำปีบ้านคำเจริญ ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ โดยใช้ไม้ตีกะโหลกศีรษะลูกหนี้ร้าวอาการปางตาย และใช้ปืนยิงเข้าเบ้าตาลูกพี่ที่เป็นขาใหญ่ประจำหมู่บ้านที่เข้าห้ามปรามตายคาที่ เพราะติดเงินพนันบอลกว่าแสนบาทแล้วไม่ยอมจ่าย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 19 มีนาคม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพอทราบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมีใครบ้างแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สั่งให้ชุดสืบสวนสอบปากคำ น.ส.มุกดา ทองศรี ภรรยา นายอนันต์ หรือฉายาสีน้ำ ดาทวี อายุ 41 ปี ซึ่งถูกคนร้ายใช้ปืนยิงเข้าเบ้าตาจนเสียชีวิต มารดา และพี่สาวของนายพงษ์ธเนษฐ์ แพงไธสง อายุ 28 ปี ที่เป็นลูกหนี้ นายอิทธิกร หรือต้น อมรนันท์ และถูกทำร้ายจนกะโหลกศีรษะร้าวอาการสาหัส
เพื่อใช้ประกอบเป็นหลักฐานขออนุญาตศาลออกหมายจับ นายอิทธิกร หรือต้น อมรนันท์ ซึ่งเป็นหัวหน้า และกลุ่มวัยรุ่นบ้านคำนางรวยใต้ ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ ที่ร่วมก่อเหตุประมาณ 6 คน
เพราะจากการสืบสวนทราบว่า ก่อนที่แก๊งทวงหนี้โหดกลุ่มนี้ซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้ และรับแทงพนันบอล จะมาก่อเหตุเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ได้มาหา นายพงษ์ธเนษฐ์ คนเจ็บที่บ้านพัก โดยบอกให้จ่ายเงินจำนวนกว่า 1 แสนบาท ที่ติดค้างค่าพนันบอล แต่คนเจ็บบอกไม่มี ฝ่ายนายอิทธิกร จึงเสนอให้นายนายพงษ์ธเนษฐ์ ผ่อนชำระเป็นรายเดือนๆ ละ 4,000 บาท แต่ถึงกำหนดนายพงษ์ธเนษฐ์ ไม่ส่งเงินให้ตามที่ตกลง
ก่อนเกิดเหตุ 3-4 วัน นายอิทธิกร ได้โทรศัพท์ทวงถามเงินจากนายพงษ์ธเนษฐ์ อีก โดยบอกให้เลือก “ระหว่างชีวิตกับเงิน จะเลือกอะไร” นายพงษ์ธเนษฐ์ จึงนำเรื่องไปเล่าให้มารดาฟัง และให้พี่สาวพูดคุยผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊กขอผ่อนผันกับ นายอิทธิกร โดยจ่ายเป็นเงินก้อนให้ก่อน 10,000 บาท
หลังจากนั้น จะผ่อนให้เป็นรายเดือนๆ ละ 1,000 บาท แต่ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้ นายพงษ์ธเนษฐ์ เตรียมตัวหนีออกจากพื้นที่ไปอยู่ภาคตะวันออก เพราะกลัวถูกทำร้ายตามคำขู่
กระทั่งกลางดึกคืนวันที่ 19 มีนาคม ขณะ นายพงษ์ธเนษฐ์ มาดูการชกมวยคู่สุดท้ายในงานบุญประจำปีของหมู่บ้าน ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นนำโดย นายอิทธิกร เข้าทำร้าย และเมื่อนายอนันต์ ขาใหญ่ของหมู่บ้านเข้าห้ามปราม ทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ขึ้นฟ้า 2-3 นัด ก่อนขับรถมาไล่ตามยิงนายอนันต์ ที่หลบอยู่ข้างต้นไม้จนเสียชีวิต
ต่อมา ร.ต.อ.วิโรจน์ แดงวงศ์ พนักงานสอบสวนได้นำสำนวน และพยานหลักฐานไปขออนุญาตศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับเลขที่ 84/2560 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2560 จับ นายอิทธิกร หรือต้น อมรนันท์ อายุ 33 ปี บ้านเดิมเลขที่ 160 บานตาติด หมุ่ 3 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและพาไปในหมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ต่อจากนั้น พ.ต.อ.สหรัฐ ประสงค์นิจกิจ รองผู้บังคับการตำรวจจังหวัด และ พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.นำกำลังชุดสืบสวนเข้าควบคุมตัว นายอิทธิกร ไปตรวจค้นที่บ้านตาติด ต.โนนผึ้ง ซึ่งปัจจุบันให้มารดาของนายอิทธิกร ที่ป่วยพักอาศัยอยู่กับพี่ชายของ นายอิทธิกร จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งของต้องสงสัย จึงนำตัวเข้าตรวจค้นต่อที่บ้านคำนางรวยใต้ หมู่ 3 ต.คำน้ำแซบ ที่นายอิทธิกร พักอาศัยอยู่กับครอบครัว พบสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายลูกค้าที่แทงบอล รวมทั้งมีชื่อของนายพงษ์ธเนษฐ์ คนเจ็บเป็นลูกค้าอยู่ด้วย
ทั้งยังพบรางถาดใส่ลูกปืนเปล่าขนาด .38 แบบบรรจุ 50 นัด จำนวน 2 ถาด ซึ่งนายอิทธิกร ระบุว่า เอามาจากร้านขายปืนที่นายอิทธิกร ทำงานอยู่ด้วย จึงยึดสมุดบัญชี และรางถาดใส่ลูกปืนไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน
เบื้องต้น นายอิทธิกร ให้การปฏิเสธว่า วันเกิดเหตุไม่ได้ไปพบคนเจ็บ และคนตาย จึงไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้าย และฆ่าเหยื่อทั้ง 2 แต่อาจเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากเขตอำเภอเมือง ซึ่งมีปัญหาอยู่กับนายพงษ์ธเนษฐ์ เป็นผู้ทำก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อได้นำตัวมาสอบเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลต่อไป