xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ติดประกาศยึด ศูนย์ฯ “วัดพระธรรมกาย” บุรีรัมย์ฮุบป่า 64 ไร่ พบประตูปิดตายไร้คนเข้าออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จนท.ติดประกาศยึดศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านหนองค่าย จ.บุรีรัมย์เครือข่ายวัดธรรมกาย กว่า 64 ไร่ หลังตรวจพบรุกที่ป่าสาธารณะ ฮุบที่ทำกินชาวบ้านและแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย วันนี้ (19 มี.ค.)
บุรีรัมย์ - คืบหน้า เจ้าหน้าที่ติดประกาศยึดศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านหนองค่าย จ.บุรีรัมย์ เครือข่ายวัดพระธรรมกาย กว่า 64 ไร่ หลังตรวจพบรุกที่ป่าสาธารณะ ฮุบที่ทำกินชาวบ้าน ล่าสุดพบประตูถูกปิดล็อกกุญแจไม่มีคนเข้า-ออก ขณะชาวบ้านเผยตั้งแต่เปิดร่วม 5 ปีมีแต่คนจากนอกพื้นที่เข้ามาปฏิบัติธรรม ส่วนคนในพื้นที่ไม่มีใครกล้าเข้าเพราะมีการตรวจเข้ม

วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านหนองค่าย ม.10 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่าสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมในเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย เนื้อที่กว่า 64 ไร่ รวมทั้งมีชาวบ้านร้องเรียนกล่าวหาว่าศูนย์ปฏิบัติธรรมฮุบที่ดินทำกินที่มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 และ ส.ค.1 ด้วยนั้น

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.4 (บาระแนะ) และกองกำกับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำป้ายประกาศไปติดไว้บริเวณกำแพงรั้วด้านหน้าศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านหนองค่าย ในเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย

โดยป้ายประกาศดังกล่าวมีข้อความระบุว่า “ประกาศตรวจยึดพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ทวงคืนผืนป่า เนื้อที่ 64 ไร่ 1 งาน 82 ตารางวา” ตาม ปจว.ข้อ 3 เวลา 05.00 น. คดีอาญาที่ 42/2559 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2559 สถานีตำรวจกองกำกับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตามหมายค้นศาลจังหวัด ที่ 38/2560 ลงวันที่ 16 มี.ค. 2560 บันทึกการตรวจยึดศูนย์ปฏิบัติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับลงวันที่ 17 มี.ค. 2560 ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา พื้นที่บริเวณศูนย์ปฏิบัติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2584

มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นเว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรม และรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกระทรวง

มาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ว่าบุคคลนั้น

มาตรา 72 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 54 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท ในกรณีที่มีคำพิพากษาชี้ขาดว่าบุคคลใดกระทำความผิดตามมาตรานี้ ถ้าปรากฏว่าบุคคลนั้นได้ยึดถือครอบครองป่าที่ตนได้กระทำความผิด ศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำผิด คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของผู้กระทำผิดออกไปจากป่านั้นได้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 17 มีนาคม 2560 โดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.4 (บาระแนะ) และกองกำกับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ ปทส. และหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ บร.4 บาระแนะ ได้เข้าตรวจสอบและพบมีการรุกที่ป่าจริง จึงแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษฐาน “แผ้วถางป่า ก่อสร้าง ยึดครอง ทำให้เสื่อมสภาพ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ที่ดิน” กับศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าว ซึ่งภายหลังมีการแจ้งความ และปิดประกาศยึดศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าว พบว่ามีการล็อกกุญแจปิดตายไม่มีคนเข้า-ออก

ส่วนความคืบหน้าคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของ ปทส. ยังไม่มีการส่งมอบคดีให้ตำรวจในพื้นที่แต่อย่างใด

ขณะที่ชาวบ้านบ้านหนองค่าย ต.บ้านบัว ระบุว่า หลังมีการตรวจสอบและยึดศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าวไม่ปรากฏมีคนเข้า-ออกแต่อย่างใด ต่างจากก่อนหน้านี้จะมีผู้คนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้า-ออกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่เปิดศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าวมาร่วม 5 ปี ชาวบ้านในพื้นที่แทบจะไม่มีใครเข้าไป เพราะเข้า-ออกค่อนข้างยาก ต้องมีการตรวจสอบเข้มงวด

ขณะที่ นางแต๋ว โอทารัมย์ ลูกสาวของนางเพิน โอทารัมย์ ออกมายืนยันว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าวได้ล้อมรั้วเอาที่ดินทำกินของครอบครัวตนเองไปกว่า 20 ไร่จริง เพราะก่อนหน้านี้จะทำไร่อ้อย ปลูกถั่ว และทำนามาตลอด แต่จู่ๆ กลับถูกฮุบที่ทำกิน ซึ่งช่วงแรกแม่เคยจ้างทนายทำเรื่องต่อสู้คดี แต่ไม่คืบหน้าจึงได้หยุดดำเนินการเพราะไม่มีเงินดำเนินเรื่องต่อ ทำให้ครอบครัวไม่มีที่ทำกินจนถึงทุกวันนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น