ระยอง - มิจฉาชีพยุคไทยแลนด์ 4.0 ตุ๋นสาวระยองประมูลกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านเฟซฯ สูญเงินกว่า 6 หมื่น สุดท้ายได้ส่งของปลอมละเมิดลิขสิทธิ์มาให้ เจ้าตัวรุดแจ้งความเจอเหยื่อเพิ่มหลอกโดนกันเป็นพวง แถมงงซ้ำ ตำรวจบอกให้ไปหาข้อมูลคนร้ายเอาเอง
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.กุลยาสิริ กอเซ็ม ชาวจังหวัดระยอง ว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเพื่อประมูลกระเป๋าแบรนด์เนม จนต้องสูญเงินกว่า 6 หมื่นบาท แต่สุดท้ายได้รับกระเป๋าปลอมส่งไปรษณีย์มาให้ถึงบ้าน ซึ่งเจ้าทุกข์ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือระยอง ไว้แล้ว และในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นัดผู้เสียหายเข้ามาพูดคุยรายละเอียดที่โรงพัก จึงเดินทางไปติดตามสถานการณ์
น.ส.กุลยาสิริ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ตนเองได้ทำการประมูลผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์สดของสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งที่จัดประมูลสินค้าแบรนด์เนม เพื่อซื้อกระเป๋าเอกสารแบรนด์เนมยี่ห้อชาแนล และกระเป๋าถือแบบผู้หญิงยี่ห้อพราด้า แต่ปรากฏว่า มีคนชนะประมูลได้รับสินค้าดังกล่าวไป
ต่อมา ในช่วงเช้าของวันที่ 4 มีนาคม 2560 ได้รับการติดต่อทางข้อความจากโทรศัพท์มือถือหมายเลข 064-215-7590 และ 690-237-9065 ว่าผู้ที่ประมูลยกเลิกการรับสินค้า สิทธิในการประมูลจึงตกเป็นของตนเอง จึงได้โอนเงินซื้อกระเป๋าชาแนลในราคา 2.8 หมื่นบาท และซื้อกระเป๋าพราด้าในราคา 3.5 หมื่นบาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 6.3 หมื่นบาท ตามบัญชีธนาคารที่เจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวให้ไว้ไป
พอรุ่งขึ้นของอีกวันรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงได้ติดต่อไปยังเฟซบุ๊กที่จัดประมูลสินค้าพบว่ากระเป๋าทั้ง 2 ใบนั้น เจ้าของได้ส่งไปรษณีย์ให้แก่ผู้ชนะการประมูลรายแรกไปแล้ว และไม่ได้ติดต่อตนเองเพื่อให้โอนเงินผ่านบัญชีแต่อย่างใด พร้อมบอกว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมเท่านั้น คาดว่าจะถูกมิจฉาชีพสวมรอยหลอกให้โอนเงินไปให้อย่างแน่นอน
เมื่อสอบถามรายละเอียดการรับสินค้าจากเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ที่ส่งข้อความหลอกให้โอนเงินไป ได้ทราบคำตอบว่า สินค้ากำลังจัดส่งไปรษณีย์ให้ เมื่อไปรษณีย์มาถึงหน้าบ้านกับพบว่าเป็นกระเป๋าปลอมละเมิดลิขสิทธิ์ จึงได้เข้าแจ้งความเพื่อแจ้งอายัดเงิน กับหมายเลขบัญชีธนาคารที่ได้มา
น.ส.กุลยาสิริ กล่าวต่อว่า จากนั้นมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าวโทรศัพท์กลับมาเพื่อขอให้ตนเองถอนอายัด เพราะไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายให้ทั้งหมดมาพูดคุยกันที่ สภ.เมืองระยอง เมื่อพบกันจึงทราบว่า ทั้งหมดถูกหลอกตุ๋นเงินให้โอนค่าประมูลกระเป๋าแบรนด์เนมเหมือนกัน โดนโอนเงินส่งต่อกันเป็นทอดๆ และจากการโทรศัพท์ติดต่อเจ้าของหมายเลขที่ส่งข้อความปรากฏว่า ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมั่นใจแน่ว่าโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกจนสูญเงินในที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายกันมาพูดคุย ซึ่งต่างฝ่ายต่างได้ให้ข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า ไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้าย เพราะเป็นการติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ตไม่รู้ว่าคนร้ายมีตัวตนอยู่แห่งหนตำบลใด จะให้ตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ต หรือหมายเลขโทรศัพท์ก็ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูในเรื่องของผู้กระทำความผิดด้านคอมพิวเตอร์เป็นผู้จัดการ และให้ผู้เสียหายทั้งหมดไปหาข้อมูลของคนร้ายเอาเอง จึงเดินทางกลับด้วยความหมดหวังในที่สุด