ลำปาง - รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ลงติดตามสถานการณ์ควันไฟป่าลำปาง หลังค่า PM 10 เกินมาตรฐานถึง 10 พบ 1 กุมภาฯ-18 มีนาฯ เกิดไฟป้ากว่า 700 ครั้ง พื้นที่ถูกเผาเสียหายแล้วกว่าหมื่นไร่ จับกุมมือเผา 20 คดี ผู้ต้องหา 21 คน ด้าน สสจ.เตรียมแผนทำห้องสะอาดรับมือหากวิกฤติ
บ่ายวันนี้(18 มี.ค.) นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้เข้าติดตามสถานการณ์ หมอกควันไฟป่าจังหวัดลำปาง หลังค่า PM10 เกินมาตรฐานมาแล้วถึง 10 วัน ที่ศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันจังหวัดลำปาง โดยมี พล.ต.กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน ผบ.มทบ.32 , นายเมืองแมน เกิดนานา ผอ.ทสจ.ลำปาง พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูล
ทั้งนี้จากรายงานในที่ประชุมพบว่า ท้องที่ลำปาง ตั้งแต่ 1 ก.พ. -18 มี.ค. 2560 เกิดไฟไหม้ป่าขึ้น 755 ครั้ง พื้นที่เสียหายเบื้องต้น 10,499 ไร่ พื้นที่เสียหายริมทาง 70 กิโลเมตร เป็นการเผาเพื่อหาของป่า 162 ครั้ง ล่าสัตว์ 28 ครั้ง เตรียมพื้นที่เกษตร 3 ครั้ง เผาขยะในที่โล่ง 11 ครั้ง และไม่ระบุสาเหตุ 509 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุม-ดำเนินคดีมือเผาแล้ว 20 คดี ผู้ต้องหา 21 คน
ด้านการแก้ไขปัญหา เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นอกพื้นที่ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ภาคใต้ เลย ราชบุรี และขอนแก่น ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่รวม 75 นาย เข้ามาสมทบช่วยดับไฟ ซึ่งจะอยู่ ประจำจนถึงวันที่ 15 เม.ย.นี้
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้ส่งหน้ากากอนามัย ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ อำเภอ ชุมชน เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงไว้ใช้ป้องกันตัวเองแล้ว 30,000 ชิ้น และได้มีการสำรองไว้อีก 50,000 ชิ้น หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น และมอบให้กับศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าลำปางอีก 5,000 ชิ้น
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้โรงพยาบาลแต่ละแห่งเตรียมแผนปรับทำห้องสะอาด ซึ่งจะปราศจากอากาศภายนอก เพื่อให้กลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ผู้ป่วยเรื้อรัง หัวใจ หอบหืดรุนแรง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้ป่วยทางเดินหายใจ ฯลฯ เข้าไปพักอาศัย เพื่อความปลอดภัย หากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กของลำปาง เข้าขั้นวิกฤติคือ ค่า PM10 เกิน 350 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นางสุรรณา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการลงไปตรวจสถานีวัดค่าอากาศของจังหวัดลำปาง ซึ่งมี 4 สถานี ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่สถาบ้านดง อ.แม่เมาะ เกินมาตรฐานอยู่ที่ 135 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่โดยรอบสถานีวันนี้เหตุการณ์ทั่วไปปกติ
และหลังรับทราบข้อมูล ก็ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งแนวทางในการทำงานก็ถือว่า ปฎิบัติได้อย่างครอบคลุมแล้ว จึงไม่มีอะไรน่าห่วง กระทรวงทรัพย์ฯก็พร้อมสนับสนุนทุกด้าน เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็อยากขอร้องประชาชนอย่าเผาอีก เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นมันเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ก็จะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ และการท่องเที่ยว ก็จะกระทบด้วย