บุรีรัมย์- คืบหน้าอาการ “แม่หญิงลี” นักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่ถูกรถชนสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง ล่าสุด อาการดีขึ้นราวปาฏิหาริย์ แพทย์เจ้าของไข้อนุญาตให้ออกจากห้องไอซียู ไปพักฟื้นยังห้องพิเศษแล้ว และขอดูอาการพร้อมทำกายภาพบำบัดอีก 1 สัปดาห์ ก่อนจะให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการของ นางบุญล้อม ศรีจุมพล อายุ 61 ปี มารดาของ น.ส.ธิดารัตน์ หรือ หญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่ถูกรถกระบะพุ่งชนหน้ารีสอร์ตกำลังก่อสร้าง ที่ ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกในสมองทั้งสองข้าง ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองด้านขวา ส่วนสมองด้านซ้าย รักษาด้วยการให้ร่างกายปรับสภาพดูดซึมเอง จนมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆราวกับปาฏิหาริย์ นั้น
ล่าสุด ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นที่ห้องพิเศษ ตึกศัลยกรรมชั้น 5 ห้อง 501 ได้แล้ว ทั้งนี้ แม่บุญล้อม ยังสามารถพูดคุยสื่อสารกับญาติและแพทย์ พยาบาล ได้มากขึ้น ทั้งยังสามารถทานอาหารอ่อนๆ ได้อีกด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อาการหนักไม่ได้สติ ต้องนอนรักษาในห้อง ไอซียูนานร่วมสัปดาห์
เมื่อผู้สื่อข่าวไปขออนุญาตบันทึกภาพเพื่อติดตามอาการป่วย คุณแม่บุญล้อม ยังได้ชู 2 นิ้วให้กับผู้สื่อข่าวด้วย พร้อมบอกว่า ตนอาการดีขึ้นมากแล้ว เหลือเพียงอาการปวดหัวเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากที่ต้องผ่าตัดสมอง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่พบกับ หญิงลี นักร้องลูกทุ่งคอยเฝ้าไข้แต่อย่างใด มีเพียงพี่ชายและญาติเท่านั้น เนื่องจากนักร้องสาวติดงานคอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัดที่รับงานไว้ก่อนหน้านี้ แต่คอยโทรศัพท์มาสอบถามอาการแม่ต่อเนื่อง ซึ่งญาติบอกว่านักร้องสาวจะกลับมาดูแลแม่ประมาณวันที่ 14 - 15 มีนาคม นี้
ด้าน น.พ.ธนภณ งามมณี แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า จากการเอกซเรย์สมองล่าสุด อาการผู้ป่วยปลอดภัยมากขึ้น รู้สึกตัวตื่นมากขึ้น สามารถพูดคุยสื่อสาร และรับประทานอาหารอ่อนๆ ได้แล้ว ซึ่งหากประเมินอาการโดยรวมถือว่าดีขึ้นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วงนี้จะให้สมองพักผ่อน และจะเริ่มให้ผู้ป่วยทำกายภาพบำบัดฝึกลุกนั่งเอง
ส่วนเรื่องอาการปวดหัว จะให้ยาแก้ปวด และคาดว่า อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ และหากอาการดีขึ้น ผู้ป่วยสามารถลุกนั่งเองได้ จะประเมินดูอาการอีกสักระยะประมาณ 1 สัปดาห์ หากไม่มีอะไรน่าห่วงก็จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นและกายภาพบำบัดที่บ้านได้