ช่วยน้องด้วย! “น้องสีแหล่” สอบติดวิศวกรรมฯ มมส.แต่ไม่มีทุนเรียนต่อ

มุกดาหาร - มีอีกที่มุกดาหาร น้อง “สีแหล่” สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มมส.แต่ไม่มีทุนเรียน ฐานะยากจน พ่อเสียชีวิตแม่ทิ้งให้อาศัยอยู่กับตา-ยาย ต้องตระเวนขอทำงานแลกค่าจ้างซื้อข้าวประทังชีวิตทั้งครอบครัว วอนผู้ใหญ่ใจดีช่วยเหลือเพื่อให้ได้เรียนต่อ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสิทธิพงษ์ ใจตรง ผู้อำนวยการโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ว่ามีเด็กนักเรียนที่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา สามารถสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) แต่ไม่มีเงินเรียนต่อเพราะฐานะยากจน อาศัยอยู่กับตา-ยาย

หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ได้ข้อมูลว่าเด็กนักเรียนคนดังกล่าวอยู่บ้านแบ่งให้เช่าห้องเล็กๆ ราคาเดือนละ 150 บาท เลขที่ 44 ม.10 บ้านโนนสว่าง ต.หว้านใหญ่ ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวแบ่งห้องเพื่อให้เช่า หลังคามุงด้วยสังกะสี

จากการสอบถาม นายจีระศักดิ์ ใจช่วง อายุ 19 ปี นักเรียนโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา เล่าว่า หลังจากทราบว่าตัวเองสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก็รู้สึกดีใจมาก แต่พอมาคิดดู ระยะเวลาที่จะต้องเรียนนานถึง 4 ปี ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนเรียน ฐานะทางบ้านยากจน จึงรู้สึกท้อแท้ แต่ก็ไม่ได้สิ้นหวัง จึงนำเรื่องไปปรึกษากับคุณครูที่โรงเรียน ต่างก็ให้กำลังใจ บอกจะพยายายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นายจีระศักดิ์ หรือน้องสีแหล่ เล่าว่า เดิมเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนนาโปน้อย อ.เมือง จ.มุกดาหาร มีน้องสาว 1 คน ชื่อนางสาวจุฑารัตน์ ใจช่วง พ่อชื่อ นายจันทร์ ใจช่วง ซึ่งพิการเนื่องจากประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ตนเรียนอยู่ชั้น ป.2 ส่วนแม่นั้นหลังจากที่พ่อประสบอุบัติเหตุไม่นานก็หนีไปทิ้งให้ตน พ่อ และน้องสาวอยู่กันตามลำพัง ตนต้องทำหน้าที่ดูแลครอบครัวตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยรับจ้างแบกกระสอบอาหารปลากระชังในแม่น้ำโขงเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว รายได้ไม่แน่นอน ไม่พอกับค่าใช้จ่าย

“ต้องปั่นจักรยานไปตามท่าน้ำต่างๆ เพื่อหางานทำให้ได้เงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ลำบากมากเวลาที่ต้องพาพ่อไปหาหมอและในคราวที่พ่อต้องนอนโรงพยาบาล ถึงจะได้รับความลำบากแต่ก็คิดเสมอว่านั่นคือสิ่งที่ภูมิใจที่สุดที่ได้ดูแลพ่อเป็นอย่างดี”

น้องสีแหล่เล่าต่อว่า ตนได้รับกำลังใจจากคุณครูรัตนา หาญเจริญ คุณครูผู้ให้กำลังใจและช่วยเหลือมาโดยตลอด วันใดที่เหนื่อยมากๆ เพราะต้องทำงานรับจ้างถึง 4-5 ทุ่ม ในเวลาเรียนมักจะเผลอหลับ แต่คุณครูไม่เคยตำหนิตน ท่านจะถามว่าเมื่อคืนตนทำงานถึงกี่ทุ่ม ก็บอกว่า 4-5 ทุ่ม ท่านก็จะบอกว่าถ้าเหนื่อยมากก็หลับสักพักแล้วก็ตื่นขึ้นมาเรียน วันหลังก็อย่าทำงานให้ดึกนัก

นอกจากนี้คุณครูยังได้พาตนไปขอทุนช่วยเหลือที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งคุณครูรัตนาดูแลเรื่องการใช้จ่ายเงินของตน ทำให้ตนพอมีเงินที่จะจุนเจือครอบครัว

“ผมได้สมัครทำงานกลุ่มจิตอาสาเป็นคณะทำงานกับเพื่อนๆ และคุณครูร่วมกันสร้างงานสร้างรายได้ ผลิตสินค้าเพื่อขายให้นักท่องเที่ยว แต่แล้วก็เจอเคราะห์ซ้ำ เมื่อผมเรียนอยู่ชั้น ป.6 และอยู่ระหว่างสอบปลายภาคพ่อได้เสียชีวิตลงทำให้ชีวิตของผมและน้องสาวเคว้งคว้างหนักมากขึ้น”

น้องสีแหล่เล่าต่อว่า หลังจากตนและน้องสาวได้สอบปลายปีเสร็จอาผู้หญิงได้พาน้องสาวไปเลี้ยงดูที่บ้านท่าไคร้ ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ส่วนตนนั้นอาผู้ชายได้นำไปเลี้ยงที่บ้านโนนสว่าง ต.หว้านใหญ่ อ.หว้าใหญ่ จ.มุกดาหาร และได้เข้าเรียนชั้น ม.1 จนจบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ตลอดเวลาที่อาศัยอยู่กับอา ตนได้หารายได้โดยการไปรับจ้างไถนา ดำนา เกี่ยวข้าว ตัดอ้อย และรับจ้างทั่วไปตามที่มีผู้ว่าจ้าง

ด้วยฐานะที่ไม่ค่อยดีนักของอา จึงขอออกจากบ้านอามาเช่าห้องเล็กๆ ในหมู่บ้านโนนสว่าง ค่าเช่าเดือนละ 150 บาท พอได้พักอาศัย ว่างเว้นจากงานรับจ้างครูรัตนาได้พาตนไปอบรมธรรมะที่สถานธรรมมุกดาหารซึ่งสั่งสอนให้คติเตือนใจตนอยู่เป็นประจำ ทำให้ตนมีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป

ในการสมัครสอบเข้าเรียนต่อหลังจบ ม.6 ได้รับความเมตตาจากคุณครูที่ปรึกษาให้เงิน 1,000 บาท ใช้ในการเดินทางไปสอบสัมภาษณ์ ซึ่งตนเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ตามที่ใฝ่ฝัน เมื่อผลการสอบประกาศออกมาปรากฏว่าสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ ตนดีใจจนบอกไม่ถูกที่ความฝันเป็นจริง

แต่ปัญหาที่ตามมาคือไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม ทางคณะครูที่โรงเรียนได้ช่วยระดมทุน ผู้ใจบุญช่วยเหลือเป็นค่าลงทะเบียนเรียนจำนวนเงิน 10,450 บาท ซึ่งตนขอขอบพระคุณคณะครูและผู้ใจบุญที่ให้ความช่วยเหลือ ตนให้สัญญาว่าจะตั้งใจเรียน และจะใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด


อย่างไรก็ตาม เงินค่าลงทะเบียนก้อนแรก 10,450 บาท ทางคณะครูและผู้ใจบุญได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาให้แล้ว แต่ก็ยังขาดสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งค่าหอพัก ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าชุด อุปกรณ์การศึกษา คณะครูได้ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องกู้ยืมทุนการศึกษาจากแหล่งต่างๆ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้รับความอนุเคราะห์หรือไม่

แต่ก็ยังหวังว่าเมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วจะขอกู้เงินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และขอทุนทางมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ด้านนายสิทธิพงษ์ ใจตรง ผู้อำนวยการโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนพยายามประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุนค่าการศึกษาของเด็ก โดยมีการเปิดบัญชีร่วมกับ นายจีระศักดิ์ ใจช่วง แล้วช่วยดูแลการใช้จ่ายเงินที่จำเป็นในการศึกษา หากผู้ใจบุญมีความเมตตามอบทุนการศึกษาให้แก่นายจีระศักดิ์ ใจช่วง สามารถติดต่อที่นายสิทธิพงษ์ ใจตรง ผอ.โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา เบอร์โทรศัพท์ 08-7637-3321 หรือติดต่อ คุณครูรัตนา หาญเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 08-6854-8855 หรือให้ความช่วยเหลือได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย จำกัด สาขาโรบินสัน มุกดาหาร บัญชีเลขที่ 407-2-40749-9 ชื่อบัญชี นายจีระศักดิ์ ใจช่วง และ นางรัตนา หาญเจริญ