xs
xsm
sm
md
lg

“ป้าน้องคิว” ขู่ฟ้อง! คนโพสต์กล่าวหาหลานลวงโลกให้บริจาคค่าเทอม ยันทุกอย่างเป็นเรื่องจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางจันทร์จิรา  เกียรตินอก ป้า กับ นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย หรือ น้องคิว หลานชายที่สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม
บุรีรัมย์ - กลายเป็นกระแสดรามาในโลกโซเชียลฯ จนได้ “ป้าน้องคิว” เตรียมปรึกษานักกฎหมายฟ้องเอาผิดคนโพสต์เฟซกล่าวหา “น้องคิว” หลานชายหลอกลวงให้คนช่วยเหลือหลังสอบติดวิศวะ ม.เกษตรฯ ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรก จนมีผู้ใจบุญบริจาคจำนวนมาก ยันทุกอย่างเป็นเรื่องจริงตรวจสอบได้ ไม่ทราบคนโพสต์มีเจตนาอะไร วอนสังคมอย่าเข้าใจผิด เผยหลานเครียดจัดนอนไม่หลับ

วันนี้ (14 มี.ค.) กลายเป็นกระแสดรามาในโลกโซเชียลมีเดียอีกจนได้ หลังจากมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กแฉ กรณีที่ นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย หรือ น้องคิว อายุ 18 ปี ที่สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรกจำนวน 36,000 บาท เนื่องจากแม่ซึ่งเป็นเสาหลักเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่วนพ่อแท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่น้องคิว 4 ขวบ ขณะที่พ่อเลี้ยงหลังแม่เสียชีวิตแล้วไม่ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย จนน้องคิวต้องไปขออาศัยอยู่กับ นางจันทร์จิรา เกียรตินอก ผู้เป็นป้า ที่มีอาชีพขายข้าวแกงดูแล

โดยในเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ข้อความกล่าวหาว่า ทั้งป้า และหลานหลอกลวงให้ผู้คนมาบริจาคเงินช่วยค่าเทอมทั้งที่ตัวเองไม่ได้ยากจนจริง ทั้งกล่าวหาว่าหลังจากได้เงินบริจาคแล้วก็นำไปเข้าร้านอาหาร ซื้อโทรศัพท์มือถือ และนาฬิการาคาแพง

จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับนางจันทร์จิรา ป้าของน้องคิว ได้ให้ข้อมูลว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหกตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังด้วยว่าพ่อแท้ๆ ของน้องคิวได้ทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็กก็ไม่เคยติดต่อกับแม่น้องคิวอีกเลย กระทั่งแม่น้องคิว ซึ่งเป็นน้องสาวของตนเอง ได้มีสามีใหม่คือพ่อเลี้ยงของน้องคิวคนปัจจุบัน ซึ่งสามีใหม่คนดังกล่าวมีลูกติด 3 คน ส่วนน้องคิวเป็นลูกติดน้องสาวของตน และมีลูกด้วยกันเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 5 คน

ช่วงที่น้องสาวยังมีเสียชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ขัดสนอะไร เพราะน้องสาวมีอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดไนท์มีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงดูน้องคิวและคนในครอบครัว ถือเป็นเสาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้ และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไร

กระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาน้องสาวได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่ทันได้สั่งเสียอะไร และจู่ๆ ร้านขายอาหารตามสั่งที่น้องสาวเคยขายและน้องคิวก็ไปช่วยขายนั้น พ่อเลี้ยงสั่งห้ามเข้าไปยุ่งเขาจะดูแลจัดการเอง ทั้งห้ามเข้าบ้านที่เคยอาศัยอยู่กับแม่โดยบอกให้ต่างคนต่างอยู่ ทำให้น้องคิวขาดที่พึ่งต้องมาอาศัยอยู่กับตนซึ่งเป็นป้า ต้องคอยอุปการะดูแลมาจนทุกวันนี้

ส่วนกรณีที่ผู้โพสต์กล่าวหาว่าไม่ได้ยากจนจริงแต่ไปโพสต์โซเชียลมีเดียขอความช่วยเหลือนั้น ชี้แจงว่าไม่เคยบอกว่าตนเองยากจนหรือร่ำรวยแต่มีอาชีพพอเลี้ยงตัวเองและลูกได้ เพียงแค่ช่วงนั้นน้องคิวซึ่งเป็นหลานที่มาขอที่พึ่งอาศัยหลังแม่เสียชีวิตมาบอกว่าสอบติด ม.เกษตรฯ แล้วทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่าให้จ่ายค่าเทอมงวดแรกเพื่อยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา ซึ่งขณะนั้นไม่มีเงินก้อนที่จะไปจ่ายให้หลาน ส่วนตัวหลานก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวมา

จึงโทร.ไปปรึกษาแฟนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แฟนเลยโพสต์เฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาว่าหากมีผู้ใจบุญให้ยืมเงินเพื่อนำไปเป็นค่าเทอมให้กับน้องคิวที่สอบติด ม.เกษตรฯ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หากกู้เงิน กยศ.ได้จะผ่อนจ่ายคืนให้ แต่เมื่อโพสต์เรื่องราวแล้วก็มีสื่อมาทำข่าว และมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยค่าเทอมและค่าเล่าเรียนให้แก่น้องคิวจำนวนมาก

สำหรับกรณีที่กล่าวหาว่าน้องคิวนำเงินที่ได้รับบริจาคไปเข้าร้านอาหาร ซื้อมือถือ และนาฬิการาคาแพงนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ปัจจุบันน้องมีเพียงรถจักรยานยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์ มือถือ และนาฬิกาที่แม่ของน้องเป็นคนซื้อให้ก่อนเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นน้องไม่มีอะไรติดตัวมา ไม่รู้ว่าคนที่โพสต์กล่าวหามีจุดประสงค์อะไร แต่การที่ทำแบบนี้ทำให้สังคมเข้าใจผิด จนตอนนี้ทั้งตนและน้องคิวเครียดมาก โดยเฉพาะน้องสภาพจิตใจย่ำแย่มากเพราะนอกจากจะสูญเสียแม่แล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

นางจันทร์จิรายังยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องจริงสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ว่าผู้โพสต์จะมีจุดประสงค์อะไรก็ถือเป็นการกล่าวหา ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเข้าใจผิด ตนจะปรึกษาผู้รู้ทางกฎหมายเพื่อแจ้งความฟ้องร้องเอาผิดผู้โพสต์ข้อความกล่าวหาตนและหลาน และจะปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อไม่ให้เกิดกระแสกระทบจิตใจหลาน อีกทั้งเงินที่ได้รับบริจาคก็เพียงพอกับค่าเล่าเรียนแล้ว พร้อมขอบคุณผู้ใจบุญที่มีเมตตาช่วยเหลือหลาน
 โพสต์ที่ออกมาแฉ



กำลังโหลดความคิดเห็น