xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ ลุงสุโขทัยวัย 63 ไต่ระห่ำยอดพระปรางค์ด้วยมือเปล่าท่าพิสดาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ขอบคุณภาพจาก ปริศนา พลเหิม / ธนัญญาณ์ ปิติวัฒน์สมบัติ / สัญญา พานิชยเวช
สุโขทัย - เจาะใจคุณลุงวัย 63 ชาวสุโขทัย คนไต่ระห่ำหอบผ้าแดงขึ้นห่มยอดพระปรางค์ด้วยมือเปล่า แถมใช้ท่าพิสดารจนติดตาคน บอกไต่มา 42 ปีแล้ว ฝึกตั้งแต่เป็นเณร ยันภูมิใจได้สานประเพณีเก่าแก่ พร้อมตั้งใจทำหน้าที่จนอายุ 70 หรือจนกว่าจะไม่มีแรงปีน

วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้งานประจำปี ปีที่ 103 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร หรือวัดพระปรางค์ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ทว่าเรื่องราวของนายจำเลย บุญเรือน อายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ศรีสัชนาลัย ผู้สืบทอดหน้าที่ในการปีนยอดองค์พระปรางค์ด้วยมือเปล่า แถมยังใช้ท่ายากด้วยการหันหลังไต่ปีน เพื่อนำผ้าขาวผ้าแดงที่พุทธศาสนิกชนร่วมกันถวายขึ้นไปห่มบนยอด ยังคงถูกจดจำ และกล่าวถึง เนื่องจากเป็นภาพหาชมยาก และคนนอกพื้นที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ทำให้ดูตื่นตาตื่นใจและน่าทึ่งเป็นอย่างมาก

นายจำเลย บุญเรือน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากมีภาพของตนเองปีนขึ้นยอดองค์พระปรางค์ (พระบรมธาตุเมืองเชลียง) ด้วยมือเปล่า เผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดกระแสมีทั้งชื่นชมและวิจารณ์ตามมา จึงอยากจะเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง

นายจำเลยบอกว่า ประเพณีไหว้พระบรมธาตุเมืองเชลียง และการห่มผ้าขาวผ้าแดงบนยอดองค์พระปรางค์มีการสืบสานต่อกันมายาวนานถึง 103 ปีแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เสด็จฯ ตรวจสังฆมณฑลฝ่ายเหนือ และโปรดให้พระครูวิริยะโสภิต (อ้น) ได้รื้อฟื้นประเพณีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

ขณะที่ตนเองก็ได้เริ่มฝึกฝนการปีนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 เมื่อครั้งยังบวชเป็นพระอยู่ หลังจากเห็นนายตุ้ม ซึ่งทำหน้าที่ปีนขึ้นไปห่มผ้าบนยอดองค์พระปรางค์ขณะนั้นจึงเกิดความสนใจ และได้ขอให้ช่วยฝึกสอนเทคนิคการปีนให้ ซึ่งตนเป็นคนปีนต้นไม้เก่งอยู่แล้ว จึงฝึกแค่วันเดียวก็สามารถปีนขึ้นไปจนถึงยอดพระปรางค์ แล้วก็รับหน้าที่ต่อมาจนถึงปัจจุบัน รวม 42 ปี

ลุงจำเลยบอกว่า นอกจากความมีใจกล้าแล้ว ทุกครั้งที่ปีนไต่ขึ้นไปก็จะต้องกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้คุ้มครองให้ปลอดภัยในการทำหน้าที่สืบสานประเพณีดีงาม และตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะปีนยอดองค์พระปรางค์ทำหน้าที่ต่อไปจนถึงอายุ 70 ปี หรือจนกว่าจะหมดเรี่ยวแรงปีนได้ เพราะถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต

“ลุงใช้มือเปล่าปีนขึ้นไปทำหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้วิธีหันหลังปีนไต่ในบางช่วงจนทำให้ดูน่าหวาดเสียว ก็เพราะว่าเมื่อปีนไปถึงบริเวณกลีบขนุนที่เรียงรายรอบองค์พระปรางค์ การหันหน้าปีนขึ้นไปตามปกติทำได้ไม่สะดวกอาจพลัดตกลงมาได้ จึงต้องใช้วิธียืนหันหลังแล้วใช้แขนคล้องระหว่างช่องกลีบขนุนค่อยๆ ดันตัวขึ้นไป” ลุงจำเลยกล่าว

ลุงจำเลยกล่าวต่อว่า เมื่อปีนขึ้นไปถึงยอดองค์พระปรางค์ก็จะสามารถมองเห็นได้ไกลถึงวัดพระแท่นศิลาอาสน์ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และภายใน 1 ปี นอกจากการปีนทำหน้าที่ห่มผ้าบนยอดแล้ว ก็ยังต้องปีนขึ้นไปอีก 2 ครั้งเพื่อคอยทำความสะอาด ดึงรากถอนโคนต้นไม้ที่ขึ้นรอบองค์พระปรางค์ด้วย









นายจำเลย บุญเรือน อายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ศรีสัชนาลัย ผู้สืบทอดหน้าที่ในการปีนยอดองค์พระปรางค์ด้วยมือเปล่า


กำลังโหลดความคิดเห็น