xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงไหม้ชุมชนแออัดกลางใจเมืองแปดริ้ววอด 7 คูหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - อากาศเริ่มร้อนจัด ทำเพลิงปริศนาลุกไหม้บ้านไม้กลางชุมชนแออัด ใกล้ศาลากลางเมืองแปดริ้ววอด 7 คูหา เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ด้านเจ้าของบ้านต้นเพลิงเข่าทรุด ระบุหมดสิ้นเนื้อประดาตัวจนไม่เหลืออะไรอีกแล้วที่สร้างสมมาทั้งชีวิต

เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ร.ต.อ.บัณฑิต ทรัพย์คง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนแออัด ซอยสันติสุข หรือถนนมหาจักพรรดิ์ ซอย 3 ใกล้เคียงกับศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังสายตรวจ

ที่เกิดเหตุลึกเข้ามาภายในซอยจากถนนมหาจักพรรดิ์ ประมาณ 150 เมตร พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อาคารบ้านเรือนของประชาชนซึ่งปลูกสร้างด้วยไม้ทางด้านขวามือจำนวนหลายคูหา โดยมีรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 4 คัน กำลังระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิง ท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนที่ต่างมายืนมุงดูด้วยใจระทึก และหวั่นเกรงว่าเพลิงจะลุกลามเข้าสู่บ้านเรือนของตนเองเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในซอยนี้ส่วนใหญ่ปลูกสร้างด้วยไม้ และเป็นชุมชนแออัดเก่าแก่ และคับแคบ โดยมีชาวบ้านบางรายถึงกับพยายามที่จะนำน้ำประปาจากก๊อกน้ำมาคอยฉีดพรมเลี้ยงไว้เพื่อรักษาบ้านเรือนของตนเองให้เปียกชุ่มอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามเข้ามาใกล้จนถึงยังตัวบ้าน

สำหรับบ้านต้นเพลิงนั้นเป็นร้านค้าของชำประจำซอย ของนางบุญสม โทนะพันธ์ หรือป้าหมวย อายุ 67 ปี เลขที่ 61/8 ถ.มหาจักพรรดิ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งปลูกสร้างเป็นลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว เรียงกันเป็นแถว รวม 4 คูหา ก่อนที่จะลุกลามไปลุกไหม้ยังบ้านไม้ 2 ชั้นข้างเคียงของ นายทิวา อ่อนนาค อายุ 84 ปี เลขที่ 61/8/1 ที่ปลูกสร้างเป็นห้องแถวเรียงกัน จำนวน 3 คูหา ที่อยู่ติดกัน

ขณะที่ นายสายันต์ วงษ์ศรี อายุ 54 อยู่บ้านเลขที่ 59/10 ถ.มหาจักพรรดิ์ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุ กล่าวว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุ จำนวน 2 ครั้ง ก่อนที่จะเห็นเปลวเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาเพลิงได้ลุกโหมสูงจนท่วมหลังคาบ้าน จากนั้นชาวบ้านจึงได้ช่วยกันรีบนำเอาถังเคมีดับเพลิงประจำชุมชน ออกมาช่วยกันฉีดพ่นเพื่อควบคุมเพลิง จำนวน 5 ถัง แต่เอาไม่อยู่

เนื่องจากอากาศร้อน และเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงมาก จึงแจ้งไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ให้มาช่วยควบคุมเพลิง แต่เส้นทางภายในซอยของชุมชนแห่งนี้เป็นซอยแคบมาก จึงทำให้รถน้ำดับเพลิงต้องเรียงแถวกันเข้ามาภายในซอยได้เพียงทีละหนึ่งคัน โดยต้องจอดรอคิวต่อแถวกันยาวออกไปไกล จึงทำให้การควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ในครั้งนี้ทำได้ไม่สะดวกมากนัก ทั้งที่รถน้ำดับเพลิงนั้นเดินทางมาถึงยังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที

ด้าน นางบุญสม เจ้าของบ้านต้นเพลิงถึงกับนั่งเข่าทรุด พร้อมกับรำพันบอกว่า ตนไม่เหลืออะไรแล้วในชีวิตนี้เพราะทรัพย์สินทุกอย่างที่อุตส่าห์สร้างสมมาตลอดทั้งชีวิต ได้จมหายไปอยู่ในกองเพลิงหมดแล้ว โดยที่ตนไม่มีอะไรถือติดมือมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว โดยขณะเกิดเหตุตนกำลังขายน้ำอัดลมใส่ถุงให้แก่ลูกค้าอยู่ที่บริเวณด้านหน้าร้าน ก่อนได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นที่บริเวณด้านหลังบ้านหนึ่งครั้ง ในขณะที่ตนกำลังหาเงินทอนให้แก่ลูกค้า ยังได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นซ้ำอีกหนึ่งครั้ง เปลวเพลิงก็ได้ลุกลามพุ่งเข้ามาใส่หน้าของตนแล้ว จึงได้รีบหนีเอาชีวิตรอดออกมา และไม่ได้คว้าอะไรติดมือมาด้วยเลย

ด้าน ร.ต.อ.บัณฑิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น