อ่างทอง - ชาวนารวมพลังตั้งท่อสูบน้ำหวังช่วยต้นข้าวที่ปลูกกว่าพันไร่ใกล้เก็บเกี่ยวไม่ให้ยืนต้นตาย หลังเข้าสู่ฤดูร้อนภัยแล้งเริ่มคุกคาม ส่อเค้าขยายวงกว้างมากขึ้น
วันนี้ (8 มี.ค.) ชาวนาหมู่ 4, 5 และ 7 ต.ป่างิ้ว ต.เมือง จ.อ่างทอง รวมตัวกันนำท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ตั้งเครื่องสูบน้ำจากคลองชลประทาน บริเวณคลอง 3 ซ้าย หมู่ 7 ต.ป่างิ้ว เข้าสู่คลองตาลแถว หมู่ 4 ที่น้ำในคลองชลประทานตำกว่าระดับคลอง เพื่อส่งน้ำปตามคลอง และสูบต่อเข้าพื้นนา หลังภัยแล้งเริ่มคุกคาม ส่งผลให้ต้นข้าวในนากว่า 1,000 ไร่ ที่กำลังใกล้ที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตในอีก 1 เดือน ต้องแห้งเหี่ยวเฉาตาย จนทำให้ชาวนาต้องขาดทุนขาดรายได้
ด้าน นายชลอ เกตุโพธิ์ทอง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 7 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง กล่าวว่า ได้เช่าพื้นที่ลงทุนปลูกข้าว 25 ไร่ ซึ่งในปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งมาเร็วกว่าปกติ ทำให้น้ำในคลองชลประทานสาขาแห้งขอดคลอง บางคลองไม่มีน้ำสูบเอาไปทำนา จนเกษตรกรชาวนาเกรงว่าต้นข้าวที่ได้ลงทุนปลูกเอาไว้ใกล้ที่จะเก็บเกี่ยวอีกเพียง 1 เดือนเศษ ต้องยืนต้นแห้งเหี่ยวเฉาตาย เสี่ยงต่อการขาดทุน ชาวนาใน 3 หมู่บ้านจึงรวมตัวกันนำท่อสูบน้ำตั้งเครื่องสูบน้ำจากคลองชลประทานขนาดใหญ่ที่ยังพอมีน้ำอยู่ เพื่อสูบน้ำส่งไปตามคลองตาลแถว มีระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ช่วยเหลือต้นข้าวกว่า 1,000 ไร่ ที่กำลังจะยืนต้นตาย รวมทั้งสวน และบ่อปลาอีกด้วย
นายสุนทร ยอดมีกลิ่น รักษาการกำนันตำบลป่างิ้ว กล่าวว่า สาเหตุที่เกษตรกรชาวนารวมตัวกันมาสูบน้ำจากคลองชลประทานในครั้งนี้ เนื่องจากว่าในปีนี้ภัยแล้งเริ่มลุกลามมากขึ้น และเร็วขึ้นกว่าปกติ เกษตรกรต้องการน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังใกล้จะเก็บเกี่ยวในอีก 1 เดือนเศษ เพื่อไม่ให้แห้งเหี่ยวเฉาตายไปก่อนถึงฤดูเก็บเกี่ยว เสี่ยงต่อการขาดทุน จึงได้รวมตัวกันร่วมด้วยช่วยกันระดมนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำนำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่ใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว นำผลผลิตไปขายสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวต่อไป
