บุรีรัมย์ - “หญิงลี” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมพ่อ และแพทย์ รพ.บุรีรัมย์ร่วมแถลงอาการ “แม่บุญล้อม” ถูกรถชนสาหัสทั้งน้ำตา ล่าสุดยังอยู่ไอซียูแต่เริ่มตอบสนอง หญิงลีเผยมีความหวังหลังแพทย์ผ่าตัดมีสัญญาณตอบสนอง ทั้งเชื่อปาฏิหาริย์มีจริง ขณะคนขับปิกอัพชนรุดเยี่ยมพร้อมกราบขอโทษยอมรับผิด ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
วันนี้ (7 มี.ค.) น.ส.ธิดารัตน์ หรือหญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมด้วยนายทองเลื่อน ศรีจุมพล บิดา และ นพ.ธนภณ งามมณี แพทย์ประจำโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ได้แถลงข่าวที่ห้องรับรอง ชั้น 5 ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ถึงความคืบหน้าอาการของ นางบุญล้อม ศรีจุมพล อายุ 61 ปี มารดาของหญิงลี ที่ถูกรถกระบะพุ่งชนหน้ารีสอร์ตของนักร้องสาวชื่อดังที่กำลังก่อสร้าง ที่ ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (6 มี.ค.) จนได้รับบาดเจ็บสาหัสมีเลือดออกในสมองทั้งสองข้าง ซึ่งขณะนี้ยังพักรักษาอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์
หญิงลีได้แถลงทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังติดอยู่ในความทรงจำเพราะเกิดต่อหน้าต่อหน้าแต่ช่วยอะไรแม่ไม่ได้ เพราะขณะนั้นทั้งตนและพ่ออยู่ในอาการช็อกทำอะไรไม่ถูก จะเคลื่อนย้ายหรืออุ้มแม่ออกจากท้องรถกระบะก็ไม่กล้าเพราะตอนนั้นแม่สาหัสมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากหมอได้ทำการผ่าตัดรักษาอาการเลือดออกในสมองแล้วทำให้แม่มีสัญญาณตอบสนองดีขึ้น ทำให้ทั้งตนและครอบครัวมีความหวังมากขึ้น ซึ่งตนได้ไปกราบไหว้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้คุ้มครองให้แม่ปลอดภัย ทั้งเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง
ส่วนรีสอร์ตดังกล่าวนั้นตนตั้งใจจะสร้างให้พ่อกับแม่ได้อยู่ดูแลในบั้นปลายชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
หญิงลียังได้กล่าวขอบคุณแพทย์ พยาบาลทุกคนที่ใส่ใจดูแลแม่เป็นอย่างดี และตั้งใจว่าอยากจะซื้อเก้าอี้สำหรับให้ญาตินั่งเพื่อบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลด้วย และจะพยายามทำบุญทำกุศลให้มากเพราะหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รู้ว่าชีวิตคนเราสั้น ควรจะทำอะไรให้กับคนที่เรารัก และทำเพื่อสังคมให้มาก
ส่วนงานที่เคยรับไว้หากงานไหนเลื่อนได้จะขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะอยากจะใช้เวลาดูแลแม่อย่างใกล้ชิด พร้อมขอบคุณแฟนเพลงและทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้
สำหรับเรื่องคดี ขณะนี้ไม่ได้คุยอะไรกับคู่กรณีเพราะอยากจะดูแลให้แม่ปลอดภัยก่อน เบื้องต้นให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไปก่อน ซึ่งคู่กรณีไม่หลบหนีทั้งยังยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน นพ.ธนภณ งามมณี แพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่า ภาพรวมอาการของคนไข้ล่าสุดเริ่มตอบสนองมากขึ้น ส่วนที่มีเลือดออกจากสมองทั้งสองข้างนั้น จากการผ่าตัดสมองข้างขวาไปแล้วก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ส่วนสมองข้างซ้ายไม่มีเลือดออกเพิ่ม ช่วงนี้ให้สมองที่ได้รับบาดเจ็บได้พักฟื้น ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ แต่เป็นสัญญาณที่ดี คาดว่าแนวโน้มอาการโดยรวมจะดีขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้
หลังเสร็จจากการแถลงข่าว นายพิทักษ์ จันทร์นวล อายุ 49 ปี ชาว อ.นาโพธิ์ ซึ่งเป็นคนขับรถปิกอัพคู่กรณี พร้อมภรรยา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของนางบุญล้อมที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์ พร้อมทั้งได้กราบขอโทษแม่บุญล้อม และยอมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งยอมรับว่าวันเกิดเหตุได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ไม่ได้เมา แต่จังหวะที่รถจักรยานยนต์จะเลี้ยวตนพยายามแซงหลบไปด้านขวาแต่ก็ไม่พ้น จึงชนแม่บุญล้อมได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “เมาแล้วขับ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย”