กาฬสินธุ์ - ชาวบ้าน ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์สุดทนร้องตรวจสอบโครงการซ่อมเครื่องสูบน้ำและงบประมาณจ่ายขาดเงินสะสมตกลงจ้างไม่เกิน 5 แสนบาทของเทศบาลตำบลภูดิน ระบุเทศบาลฯ อ้างแก้ปัญหาภัยแล้งแต่ชาวบ้านยังต้องเผชิญภัยแล้งหนักซ้ำซาก ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคนับ 10 ปี จี้ สตง.กาฬสินธุ์และท้องถิ่นจังหวัดตรวจสอบโครงการงบจ่ายขาดสะสมล่าสุดกว่า 8 ล้านบาท หวั่นผลาญงบประมาณแผ่นดิน
วันนี้ (7 มี.ค. 60) ชาวบ้านในเขต ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จ.กาฬสินธุ์ หรือ สตง.กาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ทหาร และสำนักงานท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบโครงการซ่อมแซมสถานีสูบน้ำที่ 2 โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือราษฎรในเขตนิคมสร้างตนเองลำปาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลภูดิน และตรวจสอบงบประมาณจ่ายขาดเงินสะสมของเทศบาลตำบลภูดินที่ผ่านมา
โดยเฉพาะการขุดสระน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว หลังจากเทศบาลฯ ได้จ้างผู้รับเหมาโดยวิธีตกลงจ้างไม่เกิน 5 แสนบาท และดำเนินการเสร็จแล้ว แต่ชาวบ้านกลับไม่ได้รับประโยชน์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เข้าตรวจสอบงบประมาณจ่ายขาดเงินสะสมครั้งล่าสุดงบประมาณกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งชาวบ้านระบุว่าเทศบาลฯ จะเน้นโครงการขุดลอก ขุดสระน้ำ สร้างถนน และสร้างฝาย ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนและชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์ เพราะยังคงประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ซ้ำซากเหมือนเดิม และหวั่นผลาญงบประมาณแผ่นดิน
นางบัวผัน มัดสิมโม อายุ 60 ปี ชาวบ้านค่ายลูกเสือ ม.2 ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านค่ายลูกเสือ ม.2 บ้านภูทอง ม.4 และบ้านสว่าง ม.1 รวมกว่า 200 หลังคาเรือนประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักเพราะระบบสูบน้ำจากเขื่อนลำปาวของเทศบาลตำบลภูดินพังทำให้ขาดน้ำดื่ม น้ำใช้นานร่วม 4 เดือน กระทั่งมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเทศบาลตำบลภูดินจึงเจียดงบประมาณมาซ่อม แต่ก็ยังไม่ได้มาตรฐานและใช้งานไม่เต็มที่ เนื่องจากน้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้าง ซึ่งบางครั้ง 2-3 วันถึงไหล แต่ก็ขุ่นใช้อุปบริโภค บริโภคไม่ได้ ชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้งหนักเหมือนเดิม
ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ของชาวบ้านใน ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ถือเป็นปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี ประสบปัญหามานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ทางผู้บริหารเทศบาลตำบลภูดินกลับไม่ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาระบบน้ำประปา เพราะไม่เคยนำงบประมาณเข้ามาแก้ไขปัญหา ปล่อยให้ชาวบ้านเผชิญชะตากรรมแบกรับภาระซื้อน้ำมาใช้เอง
แต่กลับนำเงินงบประมาณ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นงบประมาณจ่ายขาดเงินสะสมไปจ้างผู้รับเหมา โดยวิธีตกลงจ้างวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท เพื่อมาขุดสระในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวและในพื้นที่อีกหลายแห่ง โดยอ้างว่าเป็นการขุดสร้างแก้มลิงแก้ปัญหาภัยแล้ง แต่พอสร้างเสร็จชาวบ้านกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ เพราะขนาดสระเล็กไม่เหมาะกับราคาจ้าง นอกจากนี้ยังก่อสร้างถนน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน
ล่าสุดทราบว่าทางเทศบาลตำบลภูดินกำลังจะดำเนินการจ่ายขาดเงินสะสมอีกครั้งงบประมาณกว่า 8 ล้านบาท โดยจะใช้วิธีตกลงจ้างแบบเดิมวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท โดยไม่มีการแข่งขันราคา และเน้นการขุดลอก ขุดสระ สร้างถนน และสร้างฝาย ชาวบ้านจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สตง.กาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรม ทหาร และท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์เข้ามาตรวจสอบการใช้งบประมาณครั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการผลาญงบประมาณแผ่นดินและเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมา
ด้านนางถวิล ภูจอมนาค อายุ 71 ปี ชาวบ้านค่ายลูกเสือ ม.2 กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเดือดร้อนหนัก เพราะน้ำประปาของเทศบาลภูดินไม่ไหล บางวันไหลแต่ก็ขุ่นเป็นสีเหลือง นำมาล้างหน้าแปรงฟันใช้อาบและประกอบอาหารไม่ได้ ต้องไปซื้อน้ำมาอุปโภค บริโภค ซึ่งก็ไม่เพียงพอ เพราะตนอายุมากแล้วไม่มีรายได้ มีเพียงเงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทก็ไม่พออยู่แล้วแต่ต้องมาแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย และเข้ามาตรวจสอบงบประมาณเทศบาลตำบลภูดินที่เอาแต่ไปขุดลอก ขุดสระ แต่ไม่เอางบประมาณมาแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปติดต่อและโทรศัพท์สอบถามนายนาค ปรีวาสนา นายกเทศมนตรีตำบลภูดิน แต่ไม่รับโทรศัพท์ จึงสอบถามไปยังนางสาวกรุงใจ เจนวิริยะกุล ปลัดเทศบาลตำบลภูดิน โดยนางสาวกรุงใจกล่าวว่า ปัญหาระบบน้ำประปาที่บ้านค่ายลูกเสือ ม.2 นั้นทางเทศบาลฯ ได้แก้ไขแล้ว โดยจัดซื้อจัดจ้างสอบราคาให้ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการซ่อมแซม และซื้อเครื่องสูบน้ำใหม่ 1 เครื่อง
ทั้งนี้ ระบบสูบน้ำประปาดังกล่าวทางเทศบาลฯ ได้รับการถ่ายโอนมานาน ประกอบกับเครื่องสูบน้ำอีก 1 เครื่องมีสภาพเก่าใช้งานมาหลายปี ต้องสลับกันสูบน้ำทีละเครื่อง ทำให้อาจเกิดปัญหาบ้าง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุกน้ำออกไปแจกจ่ายประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนกรณีที่ชาวบ้านระบุว่าการขุดสระน้ำในเขื่อนลำปาว หรือโครงการอื่นๆ นั้น เป็นนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งมีการประชุมสภาและเห็นชอบจากสภาแล้วค่อยจัดทำโครงการ จึงต้องเข้าไปสอบถามกับคณะผู้บริหาร โดยเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่าง