บุรีรัมย์ - ร.ร.บ้านหนองขวาง จ.บุรีรัมย์ ส่งเสริมเด็กนักเรียนประถมฯ แปรรูปกล้วยเป็นขนมกว่า 20 เมนูนำวางขายตามงาน ทั้งมีแม่ค้า หน่วยงานต่างๆ มารับซื้อประจำ สร้างรายได้เข้าโรงเรียนเดือนละ 4 หมื่น และเด็กมีรายได้ระหว่างเรียนคนละ 500 บาทต่อสัปดาห์ ทั้งยังสามารถนำทักษะความรู้ไปต่อยอดประกอบอาชีพหลังเรียบจบได้ ทึ่งเป็นโรงเรียนชนะเลิศด้านงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ 3 ปี
วันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านหนองขวาง ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ป.4) ถึง ป.6 แปรรูปกล้วยเป็นขนมมากกว่า 20 เมนู เช่น ขนมทองม้วนกรอบแป้งกล้วย, ทองม้วนสดแป้งกล้วย, ขนมครกแป้งกล้วย, กล้วยเบรกแตก, กล้วยตาก, กล้วยธัญพืช, กระยาสารทกล้วย ทั้งยังคิดค้นสูตรแป้งกล้วยเป็นของตัวเองด้วย
โดยขนมที่ผลิตได้ให้นักเรียนนำไปวางขายตามงานต่างๆ ทั้งยังมีแม่ค้า หน่วยงานราชการ และโรงพยาบาล มาสั่งซื้อประจำ นำรายได้เข้าโรงเรียนเดือนละกว่า 40,000 บาท โดยรายได้ดังกล่าวแบ่งให้เด็กนักเรียนที่ทำขนมกว่า 20 คน เฉลี่ยคนละ 500 บาทต่อสัปดาห์ ที่เหลือนำไปซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับไว้สอนเด็กทำขนมหมุนเวียนไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ การสอนเด็กแปรรูปกล้วยเป็นขนมนั้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ และเพื่อให้เด็กมีรายได้ระหว่างเรียน ทั้งยังสามารถนำความรู้ไปต่อยอดทำเป็นอาชีพหลังจบการศึกษาได้อีกด้วย และยังสร้างรายได้ให้ชุมชน เพราะวัตถุดิบหลักคือกล้วยนั้นรับซื้อมาจากชุมชน
นางบังอร สร้อยสูงเนิน ครูผู้สอนนักเรียนทำขนม กล่าวว่า เริ่มแรกโรงเรียนได้ส่งเสริมให้นักเรียนทำขนมจากกล้วยเพื่อส่งเข้าร่วมแข่งขันทักษะความเป็นเลิศในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนทั้งระดับเขตและระดับชาติ และได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ถึง 3 ปี ทั้งยังได้รับคัดเลือกจาก สพฐ.ให้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปจำหน่ายในงานต่างๆ อีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับมีลูกค้ามาอุดหนุนซื้อไปรับประทานเป็นอย่างดี
จึงเกิดแนวคิดที่จะส่งเสริมให้เด็กนักเรียนทำขายเพื่อเป็นรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ทั้งนี้ยังเป็นการฝึกทักษะฝีมือการทำขนมเพื่อให้เด็กได้นำความรู้ไปทำเป็นอาชีพในช่วงปิดภาคเรียนหรือหลังจบการศึกษาได้อีกด้วย
นายพงษ์ศักดิ์ พุทธลา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองขวาง กล่าวว่า ขนมทุกอย่างที่เด็กทำจะได้ค่าตอบแทน อาทิ ขนมทองม้วนกรอบแป้งกล้วย เด็กได้ค่าแรงร้อยละ 13 บาท โดยให้เด็กทำช่วงหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เด็กนักเรียนได้เป็นอย่างดี ทั้งเป็นการส่งเสริมให้เด็กรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ที่สำคัญยังจะได้มีความรู้ติดตัวสามารถทำเป็นอาชีพหารายได้เสริมช่วงปิดภาคเรียน หรือหลังจบการศึกษาได้
นอกจากสร้างรายได้ให้เด็กนักเรียนแล้ว ยังสร้างรายได้ให้ชุมชนเพราะวัตถุหลักทำจากกล้วย ซึ่งจะรับซื้อจากผู้ปกครองของนักเรียนในชุมชนเอง
