ชัยนาท - ทหารลงพื้นที่ติดตามการทำเกษตรกรทฤษฎีใหม่ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง 70,000 ราย ของเกษตรกร อ.สรรคบุรี พบมีรายได้จากการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เดือนละกว่า 5 หมื่นบาท
วันนี้ (7 มี.ค.) ร.ท.อดิศร พูลอำไพ ทหารหัวหน้าชุดหมวดรักษาความสงบที่ 2 ประจำพื้นที่ จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ได้นำกำลังพลทหารลงพื้นที่ อ.สรรคบุรี ร่วมกับ นายพยับ บุญปลูก ปศุสัตว์อำเภอสรรคบุรี นายอารมณ์ เกตุมาก นักวิชาการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอสรรคบุรี พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตรวจติดตามงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง 70,000 ราย ที่ศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรและปศุสัตว์ เลขที่ 203 หมู่ 3 ต.ห้วยกรดพัฒนา อ.สรรคบุรี ซึ่งมี นายอารมณ์ เสนเลี้ยง อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของ โดย นายอารมณ์ ได้ทำการเพาะปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์หลายชนิดพร้อมๆ กัน ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ซึ่งจากการติดตามงาน พบว่า นายอารมณ์ ได้เพาะพันธุ์ไก่ชนราคาแพงหลายสายพันธุ์ มีลูกค้าจากกรุงเทพฯ มารับซื้อถึงที่ เพาะเลี้ยงนกกะทา 3,000 ตัว เพื่อขายพันธุ์ตัวละ 20-25 บาท และขายไข่ฟองละ 90 สตางค์ ปลูกผักสวนครัวนำมาแปรรูปเป็นเครื่องพริกแกงเผ็ด และเครื่องพริกแกงป่าส่งขายในตลาดชุมชน ปลูกพืชสมุนไพรอื่นๆ นำมาแปรรูปเป็นยารักษาโรคสำหรับไก่ชน ส่งขายให้แก่ผู้เลี้ยงไก่ชนในพื้นที่ มีการปลูกถั่วเขียว หญ้าแพงโกล่า และกระถิน ขายเป็นอาหารสัตว์สำหรับแพะ โค กระบือ นอกจากนี้ ยังมีต้นตาลโตนด ที่เก็บผลตาลสดไปขาย และนำมาแปรรูปเป็นขนมตาล และน้ำตาลห้วยกรดที่มีชื่อเสียงในพื้นที่
ทั้งนี้ จากการเพาะปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์หลายชนิด ทำให้นายอารมณ์ สามารถเก็บผลผลิตขายสร้างรายได้ตลอดทุกเดือน โดยมีรายได้เดือนละกว่า 50,000 บาท นับเป็นรายได้ที่ดีกว่าการทำนาเพียงอย่างเดียว จึงเป็นตัวอย่างที่ดีให้เกษตรกรรายอื่นหันมาทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืน