อุดรธานี - หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์จัดบำเพ็ญกุศลครบรอบ 2 ปี วันถวายเพลิงสรีระสังขาร พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ด้านความคืบหน้าคดีความ ผู้จ้างวานฆ่า นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ หรือ “เสี่ยบั๊ก” เจ้าของโรงพยาบาลเอกอุดร พร้อมด้วย ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาล อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อุดรฯ และพวกยังอยู่ขั้นตอนไต่สวน
เช้าวันนี้ (4 มี.ค.) พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลครบรอบ 2 ปี วันถวายเพลิงสรีระสังขารพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ที่วัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 บ้านโนนเดื่อ ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยได้รับความเมตตาจากหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย บ.นาคำน้อย ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี เมตตาเป็นประธานสงฆ์
บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ได้นำคณะสงฆ์จำนวนหนึ่งออกรับบิณฑบาตในหมู่บ้าน และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญ จากนั้นญาติโยมได้ร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ ศาลาภายในวัด
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ได้เทศนาให้โอวาทว่า ย้อนไป 2 ปีให้หลัง พวกเราได้มาในงานศพของพระหมอ พวกเราก็รู้สึกว่าจิตใจของพวกเราในช่วงนั้นเป็นยังไง นี่แหละเรื่องศีลธรรมของพระพุทธเจ้านั้นมีคุณค่ามาก ถ้าเรานึกย้อนหลังไปดูจุดนั้น ถ้าหากว่าเขาเรา เราเขา ศีลธรรมของพระพุทธศาสนา ศีลธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่อื่นไกล เขาเรา ศีลข้อที่ 1 ที่พวกเรากำลังจะสมาทานว่าทำไม คนโบราณบรรพบุรุษของพวกเราจึงเชิดชูบูชาเรื่องของศีลข้อนี้ ไป ณ สถานที่ใด พอไหว้พระจบแล้ว ท่านก็ให้สมาทานศีล
ถึงพวกเราจะรักษาศีลได้มากน้อย ได้ยาวนาน ตลอดไปก็ยิ่งดี ถ้าไม่ได้ก็ขอให้ได้วันหนึ่งกับคืนหนึ่งก็ยังดี ถ้าไม่ได้วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ได้ชั่วขณะที่เราสมาทานศีล ไม่กี่นาทีก็ยังดี ดีกว่าเป็นผู้ไม่มีศีลเลย อย่างน้อยก็ได้ฟังได้ศึกษาได้ปฏิบัติ ได้เรียนรู้ เรื่องของศีล เพราะเรารักษาศีล คนโบราณจึงเปรียบเทียบว่า ทำคุณงามความดีรักษาศีลชั่วช้างกระทบหูชั่วงูและลิ้น รักษาศีลแค่นั้นก็ยังคือสิน
ฉะนั้นขอให้พวกเราทุกๆ ท่านที่มาในวันนี้ก็เพื่อคุณงามความดีของตนเอง เมื่อทำไปแล้วมันเสียหาย อย่างที่พวกเราท่านท่านรู้รู้ได้ทราบกัน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นยังไง ความรู้สึก ศีล 5 ของพระพุทธเจ้าที่ได้มอบไว้ มีคุณค่านะ เมื่อเราไปฆ่าเขาเป็นยังไง เราก็สะใจเมื่อเราไปฆ่าเขา แต่เมื่อเขามาฆ่าเราล่ะ เราก็เสียใจ ทุกข์ใจเดือนร้อนวุ่นวายเป็นทุกข์ใจยาวนานเลยทีเดียว เพราะเขามาทำกับเรา เมื่อเราไปขโมยของเขา เขาก็เสียใจ
แต่เราจะดีใจเพราะเราได้ของเขา แต่เขาผู้ที่ถูกโดนขโมยเขาเสียใจ ในเมื่อเขามาขโมยของเรา เราก็เสียใจ แต่เขาผู้ได้มาขโมยของเราเขาก็ดีใจเพราะเขาได้ของเราไป
ในเมื่อเราไปแล้วลากเรือล้วงในสามี ภรรยา หรือลูกหลานลูกหลานเขา เมื่อเราไปได้เปรียบเขาเราก็ดีใจ แต่เมื่อเขามาทำให้กับเราล่ะ มาทำให้กับพี่น้อง ลูกหลานของเรา เราได้ยินเรารู้เราก็เสียใจ ในเมื่อเราไปโกหกต้มตุ๋นหลอกลวงคนอื่นเขา เราก็ดีใจ แต่เมื่อเขามาทำให้กับเราล่ะ เขาก็ดีใจ แต่เราก็เสียใจ นี่ล่ะศีลธรรมของพระพุทธเจ้า ถ้าดูแล้วไม่ใช่อื่นไกล เขาเรา เขาเรา ในเมื่อเราไปทำให้เขาเขาเดือดร้อนทุกข์ใจ ในเมื่อเขามาทำให้กับเรา เราเดือดร้อนเราทุกข์ใจ นี่แหละศีล 5 ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่อยู่กับพระ ไม่ใช่อยู่กับคนเฒ่าคนแก่ มันอยู่กับพวกเราทุกคน
ถ้าว่าพวกเราต้องการความสุขความเจริญ ความเย็นใจ ความผาสุกร่วมกันการอยู่ด้วยกัน ต้องเป็นผู้ ใส่ใจ รักษาศีลเป็นผู้มีศีล 5 และศีลข้อที่ 5 สุราเมระยะมัชชะประมาณ การดื่มสุราและเมรัย เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท คนที่ดื่มสุราก็คือเหล้า เมรัยก็คือเบียร์ และกัญชายาฝิ่น ยาเสพติดอื่นๆ
แต่ก่อนดื่ม และเจ็บเข้าไปก็ขาดสติ ในเมื่อคนขาดสติแล้ว ก็สามารถทำความชั่วได้ทุกอย่าง จะฆ่าใครก็ได้ จะขโมยอะไรก็ได้ จะละลาบละล้วงในสามีภรรยาของคนอื่นก็ได้ จะโกหกใครก็ได้ เพราะคนขาดสติ ฉะนั้นศีลข้อที่ 5 ถ้าจะว่าไปแล้ว เหมือนยาครอบจักรวาล
เพราะฉะนั้นศีลธรรมของพระพุทธศาสนา ศีลธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อหลวงพ่อไปในส่วนในสถานที่ใด นานนานที หลวงพ่อไปก็ชักกระตุก และสะกิดและบอกกล่าว ให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมที่มาด้วยฟังด้วยศึกษา ถ้าหากว่าไม่พูดไม่กล่าวซะเลย ศีลเหล่านั้นก็จะอยู่ในฝัก ไม่ทำถูกออกมาใช้ เหมือนมีดที่อยู่ในฝัก เมื่อฟังศีล 5 แล้วก็นำไปคิดนำไปพิจารณา ไตร่ตองด้วยเหตุผล จริงไหมที่ได้ยินมา เขาเราจริงไหม
ถ้าเรามีคุณธรรม และศีลธรรมแล้วการอยู่ร่วมกันมากมาย อยู่ด้วยกันแล้วก็มีแต่ความร่มเย็นหาสุข เพราะศีลธรรมคุ้มครอง ขอให้พวกเราทุกๆ คนที่อยู่ ณ สถานที่นี้ วันนี้ก็ขอให้ได้อธิบายคุณค่าและประโยชน์ของศีล 5 ให้คนอื่นๆ ได้รับรู้รับทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีความของพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต ณ ขณะนี้รู้แต่เพียงว่าอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของศาล ส่วนผู้ร่วมขบวนการ และมีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนไม่ว่าจะเป็น นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ หรือเสี่ยบั๊ก เจ้าของโรงพยาบาลเอกอุดร คหบดีใหญ่ประจำจังหวัด ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาล อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อุดรฯ ช่วยราชการหน่วยปราบรามยาเสพติด ภ.อุดร นายปัญจ๋า หรือโบ้ ชารีแสน ลูกจ้างประจำวิทยาลัยสารพัดช่าง จ.กาฬสินธุ์ นายบุญนาค หงษาคำ พนักงานขับรถสำนักงานชลประธาน จ.อุดรธานี ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี อย่างไรก็ตาม เป็นที่นาสังเกตได้ว่าคดีนี้ดำเนินการไปอย่างช้าๆ และเงียบๆ