xs
xsm
sm
md
lg

ขอคืนป่าช้า! ทหารบุรีรัมย์ลุยตรวจสอบ หลังถูกบุกรุกแบ่งขายนายทุน อ้างมี น.ส.3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.บุรีรัมย์ ร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอคืนพื้นที่สาธารณะป่าช้าที่สาธารณะแปลงป่าช้าบ้านปรุ-บุมะค่า ต.บ้านบัว  อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  วันนี้ (3 มี.ค.)
บุรีรัมย์ - ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.บุรีรัมย์ ร่วมหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอคืนพื้นที่สาธารณะป่าช้า ที่ผู้นำชุมชน และชาวบ้านร้องเรียนมีผู้บุกรุกทำประโยชน์ และแบ่งขายนายทุน ด้านผู้ถูกร้องยันมี น.ส.3 ถือครองที่ดินถูกต้อง จนท.เตรียมเข้ารังวัดแนวเขตชัดเจน ลดปัญหาพิพาทบานปลาย

วันนี้ (3 มี.ค.) พ.ท.ประพนธ์ อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายชุมพล ภูผานิล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทน มทบ.26 ผู้แทนที่ดินจังหวัด สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเทศบาลตำบลบ้านบัว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

หลังจากมีผู้นำชุมชนพร้อมชาวบ้านบ้านปรุ ม.14 และบ้านบุมะค่า ม.2 เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และเทศบาลตำบลบ้านบัว โดยกล่าวหาว่า นายแป๊ะ และนางเกตุ ประโลมรัมย์ ราษฎรในหมู่บ้านเข้าไปบุกรุกล้อมรั้วเอาที่สาธารณะแปลงป่าช้า บริเวณสำนักสงฆ์บ้านปรุ-บุมะค่า ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อทำประโยชน์ส่วนตัว และแบ่งขายให้แก่นายทุน

ทั้งระบุด้วยว่า ระหว่างที่ชาวบ้านร้องเรียนให้ศูนย์ดำรงธรรมเข้าทำการขอคืนพื้นที่ผู้บุกรุกยังมีพฤติกรรมข่มขู่กดดันพระในสำนักสงฆ์ดังกล่าว จนชาวบ้านต้องนิมนต์พระไปจำพรรษาอยู่วัดอื่นก่อนชั่วคราว

ขณะที่ลูกสาว และลูกเขยของผู้ถูกร้องได้เข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่มรดกไม่ได้บุกรุกตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งได้นำเอกสารสิทธิ น.ส.3 ในการถือครองที่ดินดังกล่าว จำนวน 19 ไร่ มาแสดงยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

นายชุมพล ภูผานิล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง และตรวจสอบพื้นที่จริงตามที่มีร้องเรียนแล้ว เบื้องต้น พบว่าผู้ถูกร้องมีเอกสาร น.ส.3 ในการถือครองที่ดินดังกล่าว ดังนั้น จะต้องทำการรังวัดแนวเขตที่ดินให้ถูกต้องชัดเจนอีกครั้ง เพื่อลดปัญหาข้อพิพาทระหว่างผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง

แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์จริง จะต้องดำเนินการทวงคืนพื้นที่ดังกล่าวจากผู้บุกรุกตามขั้นตอนต่อไป เพราะที่สาธารณะไม่สามารถครอบครองทำประโยชน์ส่วนตัวได้




กำลังโหลดความคิดเห็น