กาฬสินธุ์ - ตรวจสัญญาปล่อยเงินกู้สถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 พบพิรุธอื้อ เผยไม่ระบุชื่อ จำนวนเงิน และถ่ายเอกสาร ชี้วิธีดำเนินงานของสถาบันฯ หมู่ที่ 9 ผิดระเบียบ พ.ร.บ.กองทุนหมู่บ้าน ด้านตำรวจท่าคันโทเตรียมออกหมายเรียกประธานและกรรมการสถาบันฯ หมู่ที่ 9 มาสอบสวน พร้อมประสาน ปปง.เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย
จากกรณีชาวบ้านหลายตำบลในเขตอำเภอท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่าถูกสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 ตำบลท่าคันโท หลอกให้เซ็นสัญญากู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขา อ.ท่าคันโท รายละ 200,000 บาท จนมีผู้เสียหายกว่า 300 ราย ใน 4 ตำบล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือพิสูจน์ความจริงเพราะไม่มีปัญญาชำระหนี้
ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค. 60) เจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าคันโท ตำรวจ พัฒนาชุมชนอำเภอท่าคันโท ยังเดินหน้าตรวจสอบการบริหารงานของประธานและคณะกรรมการสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 อย่างต่อเนื่อง หลังจากวานนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับประธานและคณะกรรมการของสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมูที่ 9 ไปแล้ว แต่กลับไม่สามารถตรวจสอบเอกสารที่สำคัญได้ โดยเฉพาะบัญชีรายรับ รายจ่าย บันทึกผลการประชุม เอกสารสัญญากู้เงินของสมาชิกที่กู้กับธนาคารออมสิน บัญชีธนาคารเล่มที่ 4
ประธานและคณะกรรมการสถาบันฯ อ้างว่าได้ส่งให้กับทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดี เจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้เข้าสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่ชาวบ้านแจ้งความกับประธานและกรรมการสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 พนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบพิรุธเอกสารสัญญากู้เงินของสถาบันฯ ที่ปล่อยกู้กับสมาชิกและบุคคลทั่วไปด้วย
นายสิทธิศาสตร์ ม่วงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายและงานทะเบียน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีปัญหาที่ชาวบ้านร้องเรียนสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 ทำให้สถาบันต่างๆ ได้รับผลกระทบด้วย ทำให้ขาดความเชื่อมั่น จึงต้องเร่งดำเนินการ หลังจากเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกับประธานและคณะกรรมการสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 ทั้งหมด 9 คน ทางสถาบันฯ ไม่สามารถนำเอกสารสำคัญ ทั้งสมุดบัญชีเล่มที่ 4 ที่มีการโอนเงินเข้าจากสมาชิก บัญชีรายรับ รายจ่าย บันทึกผลรับรองของที่ประชุมต่างๆ และเอกสารที่ชาวบ้านกู้เงินกับธนาคารออมสินมาตรวจสอบได้ อ้างว่าเอกสารทั้งหมดอยู่กับทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดี
อย่างไรก็ตาม ผลตรวจสอบสัญญากู้เงินที่สถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 ปล่อยกู้ให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปพบพิรุธหลายอย่าง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์กู้เงิน โดยเฉพาะสภาพกระดาษที่ทำสัญญาใหม่เกินไป ทั้งๆ ที่บางสัญญาทำมาตั้งแต่ปี 2558, ในสัญญาปล่อยช่องว่าง, บางสัญญาลงชื่อผู้กู้เงินและผู้ค้ำ แต่ปล่อยช่องว่างโดยไม่ระบุจำนวนเงินกู้, บางสัญญาระบุจำนวนเงินกู้ แต่ปล่อยช่องว่าง โดยไม่ระบุชื่อคนกู้เงิน, ที่สำคัญบางสัญญาถ่ายเอกสารสำเนา ซึ่งมีลายเซ็นของพยานที่เป็นกรรมการของสถาบันฯ ไว้แล้วและคล้ายมีการเซ็นชื่อผู้กู้ใหม่
ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบยอดและจำนวนเงินที่สถาบันฯ ปล่อยกู้ไปเท่าไหร่ และมีใครบ้าง อีกทั้งเงินที่นำมาจากชาวบ้านรายละ 190,000 บาท ที่ชาวบ้านกู้มาจากธนาคารออมสินรวมแล้วประมาณ 50 ล้านบาทตามที่ชาวบ้านอ้างนั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินก้อนดังกล่าวไปอยู่ไหน
ทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตรวจสอบจำนวนเงินที่ปล่อยกู้ไปและเอกสารทั้งหมด พร้อมทั้งลงพื้นที่เข้าสอบสมาชิกที่กู้เงินกับธนาคารออมสิน แล้วสถาบันเอาเงินไปปล่อยกู้ทั้งหมด 269 ราย และประสานธนาคารออมสินสาขาอำเภอท่าคันโท ว่าจำนวนที่ชาวบ้านกู้ไปทั้งหมดกี่รายและยอดเงินเท่าไหร่
“ตรวจสอบเบื้องต้นขั้นตอนและวิธีดำเนินงานของสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 กรณีให้ชาวบ้าน ซึ่งเป็นสมาชิกไปกู้เงินจากธนาคารออมสินรายละ 5,000 บาทบ้าง รายละ 150,000 บาทบ้าง และรายละ 200,000 บาทบ้าง แล้วสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 นำเงินมาปล่อยกู้ให้กับสมาชิกอีกทอด โดยใช้ชื่อสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 ปล่อยกู้และให้ค่าเซ็นสัญญากู้เงินกับชาวบ้านรายละ 10,000 บาทนั้น ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎระเบียบของ พ.ร.บ.กองทุนหมู่บ้านอย่างชัดเจน” นายสิทธิศาสตร์กล่าว และว่า
ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการกระทำส่วนบุคคลของประธานและคณะกรรมการ ที่ให้ชาวบ้านไปกู้เงินกับธนาคารออมสินแล้วนำเงินมาปล่อยกู้ต่อ โดยสถาบันฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคลเพียงแต่ออกหนังสือและเซ็นรับรองพฤติกรรมและรับรองการเป็นสมาชิกกระดาษ 2 แผ่นเท่านั้น กรณีนี้ประธานและคณะกรรมการจะต้องรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมบอร์ดใหญ่ของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พิจารณาแนวทางดำเนินการต่อไป
สำหรับความคืบหน้าของคดี ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโทได้สอบปากคำชาวบ้านที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ทั้งหมด 95 รายเสร็จแล้ว ยังเหลือสอบพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 3-4 ปาก จากนั้นจะเรียกตัวประธานและคณะกรรมการทั้งหมด 9 คนมารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำ หากไม่มาจะออกมาเรียก จากนั้นจะออกหมายจับ พร้อมทั้งประสานไปยัง ปปง.เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของสถาบันการเงินชุมชนท่าคันโท หมู่ที่ 9 ด้วย