กาญจนบุรี- หญิงชราวัย 87 ปี พร้อมสามีชาวกะเหรี่ยง เดินกลับบ้านพบโขลงช้างป่าร่วม 30 ตัว กำลังกินน้ำ ตกใจวิ่งหนี จ๊ะเอ๋โขลงช้างป่าแม่ลูกอ่อนขวางหน้าไล่ทำร้าย หญิงชราดับคาที่ ส่วนสามีรอด
วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีหญิงชราชาวกะเหรี่ยง ถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตคาที่ บริเวณเขตติดต่อระหว่างป่าหนองแดง-ป่าเขารวก พื้นที่หมู่ 2 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แพทย์เวรโรงพยาบาลทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่กองร้อยตชด.ที่ 135 และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพ นางชามะ อายุ 87 ปี ชาวกระเหรี่ยงเสียชีวิตอยู่กับพื้นดิน สภาพศพตามร่างกายและใบหน้ามีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ แขน และขาหักหลายท่อน โดยมี นายพุโจ ชาวกะเหรี่ยง อายุ 55 ปี สามีของผู้ตายเฝ้าดูศพด้วยอาการตื่นตระหนก หลังจากทำการพิสูจน์เบื้องต้นแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำร่างออกมาจากป่าเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าช้างป่าอาจจะยังคงวนเวียนอยู่บริเวณนั้น
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางชามะ ผู้เสียชีวิต กับนายพุโจ สามี เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนๆ ระหว่างเดินทางกลับปรากฏว่า ทั้งสองพบโขลงช้างป่ากำลังกินน้ำอยู่ร่วม 30 ตัว
ด้วยความตกใจทั้งสองจึงรีบวิ่ง แต่กลับพบว่า มีโขลงช้างป่าแม่ลูกอ่อนประมาณ 10 ตัว ยืนขวางทางอยู่ด้านหน้า และถูกโขลงช้างป่าแม่ลูกอ่อนกรูวิ่งเข้าใส่ ด้วยความที่ นางชามะ อายุมากแล้วทำให้วิ่งหลบหนีไม่ทันจึงถูกโขลงช้างรุมกระทืบจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนสามีคือ นายพุโจ นั้นวิ่งเอาตัวรอดไปได้ก่อนที่จะรอจังหวะหลบไปหาเพื่อนบ้านเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำศพภรรยาออกจากป่า เพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนา
วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีหญิงชราชาวกะเหรี่ยง ถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตคาที่ บริเวณเขตติดต่อระหว่างป่าหนองแดง-ป่าเขารวก พื้นที่หมู่ 2 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แพทย์เวรโรงพยาบาลทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่กองร้อยตชด.ที่ 135 และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพ นางชามะ อายุ 87 ปี ชาวกระเหรี่ยงเสียชีวิตอยู่กับพื้นดิน สภาพศพตามร่างกายและใบหน้ามีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ แขน และขาหักหลายท่อน โดยมี นายพุโจ ชาวกะเหรี่ยง อายุ 55 ปี สามีของผู้ตายเฝ้าดูศพด้วยอาการตื่นตระหนก หลังจากทำการพิสูจน์เบื้องต้นแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำร่างออกมาจากป่าเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าช้างป่าอาจจะยังคงวนเวียนอยู่บริเวณนั้น
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางชามะ ผู้เสียชีวิต กับนายพุโจ สามี เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนๆ ระหว่างเดินทางกลับปรากฏว่า ทั้งสองพบโขลงช้างป่ากำลังกินน้ำอยู่ร่วม 30 ตัว
ด้วยความตกใจทั้งสองจึงรีบวิ่ง แต่กลับพบว่า มีโขลงช้างป่าแม่ลูกอ่อนประมาณ 10 ตัว ยืนขวางทางอยู่ด้านหน้า และถูกโขลงช้างป่าแม่ลูกอ่อนกรูวิ่งเข้าใส่ ด้วยความที่ นางชามะ อายุมากแล้วทำให้วิ่งหลบหนีไม่ทันจึงถูกโขลงช้างรุมกระทืบจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนสามีคือ นายพุโจ นั้นวิ่งเอาตัวรอดไปได้ก่อนที่จะรอจังหวะหลบไปหาเพื่อนบ้านเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำศพภรรยาออกจากป่า เพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนา