พบเงื่อนงำครูกู้เงินสหกรณ์ฯ พิษณุโลก มีโอนกลับ จนท.เป็นแสนเป็นล้าน

พิษณุโลก - ส่อมีเงื่อนงำ หลังครูแห่แจ้งความ-ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ ถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ หลอกกู้เงินก่อนเชิดเงินหนีร่วม 30-40 ล้าน พบหลายคนกู้ได้มีโอนส่งให้ “บอย-จนท.สินเชื่อสหกรณ์ฯ” ครั้งละหลายแสน สูงสุดถึง 1.7 ล้าน เชื่อมีปล่อยกู้นอกระบบต่ออีกทอด

วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายสำเนา ยาสุด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุ่งผลำ ต.น้ำกุ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และข้าราชการครูในจังหวัดพิษณุโลก รวม 23 คน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สันตศิริ เมตาวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก

โดยระบุว่า นายฉัตรชัย ทองน้อย หรือบอย เจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดพิษณุโลก หลอกลวงให้กู้เงินยืมเงินจากสหกรณ์ฯ ภายใต้ข้อแม้ว่าต้องเอาเงินที่ได้จากการกู้สหกรณ์ฯ จ่ายเป็นค่าตอบแทนให้ ก่อนที่จะเชิดเงินไปร่วม 30-40 ล้านบาท

ซึ่งกลุ่มผู้ร้องได้แนบหลักฐานสัญญาเงินกู้ และสลิปการโอนเงินต่างๆ อาทิ ปลายทางบัญชี กรุงไทย สาขาเทสโก้ โลตัส ชื่อ นายฉัตรชัย ทองน้อย เมื่อ ก.พ. 59 จำนวนเงิน 900,000 บาท, บัญชี ธ.กรุงไทย สาขาพิษณุโลก ชื่อ นายฉัตรชัย ทองน้อย เมื่อ ธ.ค. 59 จำนวนเงิน 350,000 บาท, นายฉัตรชัย ทองน้อย จำนวนเงิน 300,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อ นายธวัชชัย หมวกเมือง จำนวนเงิน 600,000 บาท

นอกจากนี้ยังสัญญาเงินกู้ตามกฎหมายใหม่ ซึ่งนายฉัตรชัย ทองน้อย เป็นผู้กู้จากผู้เสียหายต่างๆ บางรายระบุยอดเงินกู้สูงถึง 1,7000,000 บาท บางราย 300,000 บาท เป็นต้น

ล่าสุดวันนี้ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิษณุโลกได้ออกมาชี้แจงผ่านแอปฯ ไลน์ถึงสมาชิกสหกรณ์ฯ ว่า “ผมผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิษณุโลก จำกัด ขอชี้แจงให้ท่านสมาชิกได้ทราบเกี่ยวกับนายฉัตรชัย ทองน้อย เป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ได้ทำการนำเงินของสหกรณ์ ไปตามที่ข่าวเสนอออกไปนั้น ไม่เป็นความจริงครับ ผมขอชี้แจงว่า ในระบบสหกรณ์ ไม่กระทบ และสหกรณ์ก็ไม่เกิดความเสียหายครับ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องข้อตกลงกันส่วนตัวระหว่างสมาชิกกับนายฉัตรชัย กันเองครับ ทางสหกรณ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยครับ”

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้เสียหายรายหนึ่งที่ร่วมร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมฯ ถึงกรณีปรากฏสลิปโอนเงินผ่านธนาคารไปให้นายฉัตรชัยหลายครั้งว่า เป็นเงินค่าอะไร-ทำไมยอดเงินสูง บางรายยอดเงินโอนมากถึง 1.7 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายกลับไม่สะดวกที่จะตอบคำถาม และไม่ยอมรับโทรศัพท์ในเวลาต่อมา

ขณะที่แหล่งข่าวแวดวงข้าราชการครูระบุว่า การฝากเงินกับสหกรณ์ครู อัตราดอกเบี้ยสูงระดับ 3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ต่ำมาก ไม่ถึง 1% ส่วนการกู้เงิน ก็ไม่ยุ่งยากและอัตราดอกเบี้ยต่ำ มีหลักเกณฑ์และกรอกแบบฟอร์มการกู้แต่ละประเภท

ส่วนกรณีผู้เสียหาย 23 ราย กู้เงินสหกรณ์ฯ ผ่านนายบอย และมีการโอนเงินกลับ ด้วยตัวเลขที่สูงนั้น เชื่อว่ามีคำมั่นสัญญาอื่น ไม่ใช่แค่กระดาษสัญญาเงินกู้แน่ๆ คาดว่านายบอยน่าจะหว่านล้อม และชักจูงผู้เสียหายโอนเงินให้เพื่อนำไปปล่อยกู้นอกระบบอีกทอดหนึ่ง

ขณะที่หลายคนเริ่มสงสัยถึงสถานะ-ความน่าเชื่อถือของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เนื่องจากเห็นว่าเจ้าหน้าที่สินเชื่ออย่างนายฉัตรชัย ทองน้อย หรือบอย สามารถนำเงินออกมาจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ จำนวนมากมายหลายครั้ง น่าจะทำเป็นขบวนการหรือไม่ และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจมีกรรมการ 1 ใน 15 คนรู้เห็นถึงการกระทำดังกล่าว

ซึ่งการกู้เงินจากสหกรณ์ครูฯ จะต้องผ่านการอนุมัติจากกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งก่อน(วันละ 3 คน) ตามคำแนะนำของผู้สอบบัญชีสหกรณ์ เมื่อคราวประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 กรณีที่กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งมาไม่ครบ 3 คน ให้กรรมการที่มาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้พิจารณาอนุมัติตามหลักเกณฑ์ และให้ผู้ไม่มาลงลายมือชื่อภายหลังจนครบ 3 คน (กรรมการอำนวยการ, กรรมการเงินกู้ และกรรมการศึกษาประชาสัมพันธ์)

กรณีที่กรรมการไม่มาทั้ง 3 ท่าน มอบให้ฝ่ายจัดการเป็นผู้พิจารณา (ผู้จัดการ และรองผู้จัดการ 2 คน) เพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่สมาชิกมีความจำเป็นเร่งด่วน และมอบหมายกรรมการประจำวันทั้ง 3 คนมาลงลายมือชื่อภายหลังทุกครั้ง นอกเหนือจากนั้น ให้อยู่ในดุลพินิจการพิจารณาของคณะกรรมการ

นอกจากนี้ ตามกฎระเบียบยังระบุอีกว่าให้โอนเงินกู้ทุกประเภทเข้าบัญชีธนาคาร หรือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สหกรณ์ฯ ของสมาชิกที่ยื่นกู้ทุกราย

ให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งในแต่ละวันพิจารณาการอนุมัติเงินกู้ทุกประเภทในเวลา 13.00-15.00 น. ของทุกวันทำการ หากสมาชิกยื่นขอกู้ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. จะดำเนินการโอนเงินให้สมาชิกตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. หากสมาชิกยื่นขอกู้ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. จะดำเนินการโอนเงินให้สมาชิกในวันถัดไป
สำหรับสาขานครไทย ให้แฟกซ์รายชื่อผู้ขอกู้เงินทุกรายมายังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิษณุโลก จำกัด สาขาใหญ่ทุกวัน เพื่อให้คณะกรรมการเงินกู้พิจารณาอนุมัติ

สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิษณุโลก จำกัด มีสมาชิกทั้งสิ้น 11,565 คน มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 13,765,527,240 บาท (ณ 31 ธ.ค. 59) มีเงินฝากจากสมาชิก 3,400,889,150 บาท มีเงินสำรองและอื่นๆ 449,345,479 บาท ปล่อยกู้ให้สมาชิก 13,461,936,167 บาท ปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 344,579,910 บาท