อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่คัดแยกพัสดุไปรษณีย์เขต 10 จังหวัดอุบลราชธานี ระทึกกลางดึก หลังเครื่องเอกซเรย์พัสดุฟ้องพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดถูกส่งผ่านไปรษณีย์ ต้องรีบแยกออกมาวางไว้กลางแจ้ง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบ พบเป็นเครื่องสำอางและเทปกาวใสวางทับซ้ำ ทำให้เครื่องฟ้องเป็นวัสดุต้องสงสัย
เมื่อเวลา 22.00 น. คืนที่ผ่านมา (23 ก.พ.) พ.ต.ท.ธีรเจต ต่อน้อย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แผนกคัดแยกพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ ศูนย์ไปรษณีย์วนารมย์เขต 10 อุบลราชธานี พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายระเบิดแสวงเครื่องใส่ในกล่อง มีจุดหมายปลายทางผู้รับที่ จ.เชียงราย ขอให้ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบด้วย จึงพร้อม พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พ.ต.อ.ศิราเมษฐ์ ธานินพิทักษ์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่ได้นำกล่องพัสดุต้องสงสัยออกมาวางไว้ในพื้นที่โล่งบริเวณลานจอดรถด้านหน้าที่ทำการศูนย์ไปรษณีย์เขต 10 เข้าตรวจสอบพบกล่องดังกล่าว มีน้ำหนักประมาณ 65 กรัม ระบุผู้ส่งต้นทางชื่อ น.ส.เม (ขอสงวนนามสกุล) เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ส่วนระบุผู้รับปลายทางอยู่ที่ จ.เชียงราย ชื่อนิษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล)
จากการถาม น.ส.รุ่งฟ้า กระโทกนอก อายุ 27 ปี พนักงานเอ็กซเรย์พัสดุผลัดดึกเล่าว่า ระหว่างพัสดุถูกลำเลียงผ่านเครื่องเอกซเรย์ เพื่อคัดแยกส่งไปยังที่ต่างๆ เครื่องเอกซเรย์ก็หยุดทำงานทันที เพราะพบความผิดปกติที่พัสดุเลขที่ EQ 340646XXXTH ระบุผู้ส่งชื่อ น.ส.เม โดยจอภาพแสดงให้เห็นเป็นวัตถุคล้ายระเบิด จึงแจ้งให้นายพนมพร บูรมา หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยทราบ
นอกจากนี้ได้นำเครื่องสแกนโลหะเข้าตรวจซ้ำพบว่าเครื่องสแกนได้แสดงเสียงเตือนภายในมีวัตถุที่เป็นโลหะ ประกอบชื่อที่อยู่ของผู้ส่งระบุอยู่ จ.สุรินทร์ แต่เมื่อตรวจสอบต้นทางที่รับพัสดุชิ้นนี้มาเป็นสำนักงานไปรษณีย์สาขาอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี ทำให้เกิดข้อสงสัย จึงนำวัตถุต้องสงสัยออกจากเครื่องใช้ตรวจจับ ไปวางไว้นอกตัวอาคารตามที่ได้รับการฝึกฝนมา และแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาทำการเก็บกู้
หลังทราบข้อมูลทั้งหมดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี จึงใช้อุปกรณ์มาเปิดกล่องพัสดุภัณฑ์ดังกล่าวก็พบว่าภายในบรรจุกระปุกเครื่องสำอางจำนวน 2 กระปุก และยังมีครีมบำรุงผิว 1 หลอด และพลาสติกใสวางพาดกันอีก 1 ม้วน แต่ไม่พบวัตถุคล้ายระเบิดตามที่เครื่องสแกนถ่ายภาพออกมา
จึงสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากสิ่งของที่วางทับซ้อนกัน เมื่อนำกล่องพัสดุเข้าเครื่องสแกนทำให้ดูคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง เพราะกระปุกเครื่องสำอางมีรูปแบบทรงกลม ส่วนครีมบำรุงผิวที่เป็นแท่งหลอดและม้วนพลาสติกใสที่วางทับกัน ทำให้ดูภาพเหมือนมีการต่อวงจรของระเบิดดังกล่าว ซึ่งการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ