บริษัทดังโร่ขอโทษ “เฉลิมชัย” ทันที สั่งเก็บสินค้าคืนหมดทุกแผง

เชียงราย - ผู้บริหารบริษัท ชิโน-แปซิฟิคฯ ยกคณะโร่พบ “อาจารย์เฉลิมชัย” ทันที หลังเจอโวยละเมิดลิขสิทธิ์ ใช้ภาพวัดร่องขุ่นติดกล่องช็อกโกแลตวางขายไปทั่ว รับรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซื้อภาพจากเว็บฯ-ลิขสิทธิ์คุมไม่ถึงด้านศิลปะ พร้อมสั่งเก็บสินค้าคืนหมด 8 พันกล่อง-นำเงินบริจาค ร.ร.เด็กตาบอดแม่สาย ครึ่งล้าน

วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ออกมาระบุว่ามีกลุ่มทุนจีนละเมิดลิขสิทธิ์นำภาพวัดร่องขุ่น ไปผลิตเป็นกล่องช็อกโกแลต และมีบริษัทไทยนำเข้า-จำหน่ายไปทั่วทั้งสนามบิน ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ถือเป็นการทำที่ไม่เหมาะสม เพราะนำศิลปะไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวทางธุรกิจ
(อ่านเรื่อง ฉุนกึก “เฉลิมชัย” โวยโดนละเมิด ทุนจีนทำ-ไทยขาย ช็อกโกแลตรูป “วัดร่องขุ่น”http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018775 ประกอบ)

ล่าสุด นายเศวต เศวตสมภพ กรรมการอาวุโส บริษัท ชิโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 122/2-3 ถนนนนทรี เขตยานาวา กรุงเทพมหานคร บริษัทที่นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบอาจารย์เฉลิมชัย ที่วัดร่องขุ่น ในวันเดียวกัน

นายเศวตและคณะจากบริษัท ชิโน-แปซิฟิค ได้กล่าวขอโทษอาจารย์เฉลิมชัย พร้อมระบุว่ากระทำลงไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากบริษัทได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มานานแล้วโดยใช้ภาพที่บ่งชี้ถึงวัฒนธรรมไทย จึงได้นำภาพวัดร่องขุ่นที่มีความงดงามไปประกอบบนกล่องสินค้าดังกล่าว

นายเศวตกล่าวว่า บริษัทของตนประกอบการในลักษณะธุรกิจครอบครัวมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่รุ่นปู่แล้ว โดยนำเข้าและจำหน่ายสินค้าในลักษณะเดียวกัน เพราะมีปรัชญาของบริษัทในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย คืนกำไรสู่สังคม

“10 ปีหลังนี้ บริษัทฯ ได้ใช้ภาพผ้าไหมมัดหมี่ของไทยประกอบผลิตภัณฑ์ ล่าสุดฝ่ายการตลาดของบริษัทก็เห็นว่าภาพวัดร่องขุ่นมีความงดงาม บ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทย รวมทั้งเห็นว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ เขาก็ทำกันอย่างนี้หลายราย จึงได้ซื้อภาพจากเว็บไซต์หนึ่งมาใช้ประกอบผลิตภัณฑ์ โดยไม่รู้ว่าลิขสิทธิ์นั้นครอบคลุมเฉพาะภาพนั้นๆ แต่ไม่ได้ครอบคลุมถึงความเป็นศิลปะตามที่อาจารย์เฉลิมชัยได้แจ้ง”

นายเศวตกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากได้พบกับอาจารย์เฉลิมชัยแล้ว ได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดทั้งหมดประมาณ 8,000 กล่อง ส่วนที่ติดอยู่กับตามแผงก็แจ้งให้ร้านต่างๆ ทราบว่าไม่สามารถจำหน่ายได้ และจะได้นำไปทำลายต่อไป

นอกจากนี้ นายเศวตและเจ้าหน้าที่บริษัทฯ รับที่จะนำเงินรายได้ไปบริจาคเพื่อสาธารณกุศล โดยอาจารย์เฉลิมชัยก็ได้ประสานโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้รับเงินบริจาคจากบริษัทเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท ทำให้เรื่องราวดังกล่าวได้ข้อยุติในที่สุด

นายเฉลิมชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีจะนำภาพศิลปะวัดร่องขุ่นไปใช้ประโยชน์นั้นสามารถทำได้ แต่ต้องปรึกษาหารือกับตนก่อน ที่ผ่านมาก็มีหลายรายที่นำผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาปรึกษา หากนำไปช่วยเหลือด้านสาธารณกุศล หรือไม่มุ่งผลประโยชน์เข้าตัวเอง ตนก็ไม่ได้ห้ามปรามเลย แต่ถ้านำไปใช้ทางธุรกิจอย่างเดียวจะทำให้เกิดความเสียหาย เพราะศิลปะของตนสร้างขึ้นเพื่อสาธารณะ ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน

“แต่กรณีนี้ตนได้ไปสอบถามที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง หลังมีการเก็บผลิตภัณฑ์ไปแล้ว กลับมีคนถามหาซื้ออีก เพราะคิดว่าเป็นของวัดร่องขุ่น และคิดว่าวัดร่องขุ่นทำธุรกิจแบบนี้ แต่เมื่อได้แก้ไขและร่วมบริจาคทานเช่นนี้แล้วก็ให้อภัยหมดทุกอย่าง”