บุรีรัมย์ - ผ่านไป 4 วันแล้ว กรณีเจ้าของรถเก๋งเลี้ยวตัดหน้าชน จยย.นักศึกษาสาวบาดเจ็บทางเข้าศูนย์ราชการ จ.บุรีรัมย์ แล้วขับหนี ที่มีการแชร์สนั่นโลกโซเชียลฯ ถึงความไร้น้ำใจของคนขับ ล่าสุดเจ้าของรถเก๋งยังไม่ยอมแสดงตัว ขณะที่ตำรวจเร่งตรวจสอบวงจรปิดใกล้เคียง ทั้งให้ผู้เชี่ยวชาญขยายภาพป้ายทะเบียนให้ชัดเจน เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีการแชร์คลิปภาพวิดีโอจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เหตุการณ์รถเก๋งเลี้ยวตัดหน้าชนจักรยานยนต์ของ น.ส.อัฐริยา บุญปก อายุ 21 ปี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บริเวณปากทางเข้าออกศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จนนักศึกษาสาวกระเด็นหลายตลบได้รับบาดเจ็บ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวกลับไม่สนใจลงมาดูหรือช่วยเหลือ กลับขับรถหนีเข้าไปในศูนย์ราชการเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้ น.ส.อัฐริยานอนสลบอยู่กลางถนน ทำให้ชาวโซเชียลฯ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ต่างประณามคนขับรถเก๋งที่ไร้น้ำใจชนแล้วหนีไม่ลงมาดูคนเจ็บ รวมทั้งต่อว่ารถที่ขับผ่านไปหลายคันแต่ไม่มีคนลงมาช่วยเหลือ โดยจากคลิปผู้บาดเจ็บนอนสลบอยู่นานกว่าจะมีรถของพลเมืองดีที่จอดลงมาดูและโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพมาช่วยนำส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้ น.ส.อัฐริยา นักศึกษาที่บาดเจ็บก็ยังนอนรักษาอยู่ตึกศัลยกรรมหญิงชั้น 3 โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ โดยยังไม่มีกำหนดว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหน เนื่องจากต้องตรวจเช็กสมองที่ได้รับการกระทบกระเทือนให้แน่ใจอีกครั้งตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดจนถึงขณะนี้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปถึง 4 วันแล้ว แต่คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแสดงความรับผิดชอบต่อครอบครัวผู้เสียหายแต่อย่างใด
ขณะที่ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.สอบสวนหัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดแล้วพบว่ารถเก๋งมีการเปิดไฟเลี้ยวจริง แต่ไม่ได้ชิดซ้ายเข้าเลนในก่อนจะเลี้ยวทำให้จักรยานยนต์ที่ขับตามมาไม่ทันระวังถูกกระเด็นได้รับบาดเจ็บ จากนั้นรถเก๋งขับเข้าไปในศูนย์ราชการโดยไม่หยุดช่วยเหลือหรือแจ้งเจ้าหน้าที่
จากภาพที่ปรากฏ คนขับรถเก๋งจะเข้าข่ายความผิดข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และไม่หยุดช่วยเหลือแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงโดยทันที หรือหลบหนี ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ
ขณะนี้เจ้าของรถเก๋งคันที่ปรากฏในคลิปยังไม่มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ รุ่นเก่า หรือเป็นที่รู้จักทั่วไปว่ารุ่นเตารีด แต่ทะเบียนไม่ชัดเจนจึงยังไม่ทราบว่าเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในศูนย์ราชการ หรือเป็นบุคคลอื่นที่มาติดต่อราชการหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องทำการตรวจสอบวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมจะนำภาพให้ผู้เชี่ยวชาญทำการดึงขยายภาพเพื่อให้สามารถมองเห็นทะเบียนได้ชัดเจน ขณะนี้ตำรวจเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งผู้บังคับบัญชาได้สั่งกำชับให้เร่งติดตามคดีดังกล่าวด้วยเช่นกัน