นครพนม - หนุ่มชาวนานครพนม บ่หยั่นแล้ง ปลูกข้าวโพดหวานแทนการทำนาปรัง ฟันกำไรแต่ละปีค่อนครึ่งแสนบาท ทั้งยังปลูกพืชผักสวนครัว-ดาวเรืองไว้ข้างๆ แปลงข้าวโพดช่วยประหยัดน้ำทำรายได้เพิ่มอยู่อย่างพอเพียง
นายพรประเสริฐ ศรีอารักษ์ ชาวนาบ้านนาคอกควาย หมู่ที่ 2 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม เล่าว่า ตนและภรรยามีที่นาอยู่ประมาณ 6 ไร่ แต่ละปีจะปลูกข้าว 2 ครั้ง แต่ในระยะหลังต้องเจอกับปัญหาภัยแล้ง ตนจึงพยายามหาพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อยมาปลูกทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง โดยได้เลือกปลูกข้าวโพดหวานแทน เพราะนอกจากเป็นพืชทนแล้งแล้วยังมีการประกันราคาจากบริษัทซึ่งรับซื้ออยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 23 บาท อีกทั้งทางบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนให้ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และยาป้องกันแมลง แต่เราจะต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ในการปลูกข้าวโพดหวานตลอดระยะเวลา 4 เดือน
สำหรับขั้นตอนการปลูก เริ่มตั้งแต่หลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จ จะตัดฟางข้าวแล้วไถกลบ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน เพื่อตากดินให้แห้ง จากนั้นก็ยกร่องแปลงข้าวโพดประมาณ 1 ฟุต ก่อนที่จะนำเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลงปลูกในแปลง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 กิโลกรัมต่อไร่ จะมีทั้งเมล็ดพันธุ์ตัวผู้และตัวเมีย โดยใช้วิธีการปลูก 1 ต่อ 6 แถว คือเมล็ดพันธุ์ตัวผู้ 1 แถว สลับกับเมล็ดพันธุ์ตัวเมีย 6 แถว เพื่อที่ว่าเมื่อข้าวโพดโตเต็มวัยแล้วเกสรของต้นตัวผู้จะปลิวมาผสมพันธุ์กับไหมของต้นตัวเมียได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ได้ผลผลิตอย่างเต็มที่
ส่วนน้ำที่ใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นข้าวโพดจะสูบมาจากคลองส่งน้ำของหมู่บ้าน มาจ่ายตามร่องน้ำเฉลี่ยอยู่ที่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ซึ่งแต่ละเดือนจะเสียค่าไฟฟ้าประมาณ 150-200 บาท และเมื่อครบกำหนดเก็บเกี่ยวทางบริษัทจะออกมารับซื้อในราคาที่ตกลงกันไว้
นายพรประเสริฐบอกว่า ในปีที่มาผ่านตนมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท แต่ปีนี้คาดว่าจะได้มากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว เพราะเริ่มรู้วิธีการดูแลรักษาป้องกันไม่ให้ข้าวโพดเสียหาย ตลอดจนการตกแต่งยอดข้าวโพดเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น รวมถึงการลดต้นทุนการผลิตที่มีการนำเอาลำต้นข้าวโพดไปเลี้ยงวัวและควาย จากนั้นนำมูลที่ได้มาใช้ในแปลงนาร่วมกับส่วนใบของข้าวโพดที่มีการไถกลบเพื่อเป็นปุ๋ยบำรุงดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นทุกปี
นอกจากนี้ ตนและภรรยายังได้ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทาน และปลูกดอกดาวเรืองไว้ข้างๆแปลงข้าวโพดเพื่อจำหน่ายอีกด้วย ซึ่งแทบจะไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย เพราะได้ทั้งปุ๋ยและน้ำจากแปลงข้าวโพดอยู่แล้ว ทำให้ในทุกๆ วันครอบครัวของตนมีรายเสริมในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาอีกกว่า 300 บาทต่อวัน
