xs
xsm
sm
md
lg

สำนักพระพุทธศาสนา จ.อุบลฯ แจง ไม่ได้ทุจริตจัดบวชพระ 100 วันถวาย ร.๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจ.อุบลราชธานี เข้าไปชี้แจงเรื่องงบประมาณการจัดงานบวชสตมาร ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙
อุบลราชธานี - สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุบลราชธานีแจงไม่ได้ทุจริตงานบวช 100 วันถวายในหลวง รัชกาลที่ ๙ หลังถูกโลกโซเชียลโจมตีหนัก สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานีแจงเหตุที่วัดป่าหัวดอนได้รับเงินไม่ตรงกับใบสำคัญรับเงินเพราะโยกงบไปใช้จ่ายหมวดอื่นของโครงการนี้ พร้อมทำหนังสือขอขมาและออกใบสำคัญรับเงินให้ใหม่จนเป็นที่เข้าใจแล้ว ยืนยันทำงานใสซื่อบริสุทธิ์

ตามที่เพจ “ทีวีชุมชนอุบลราชธานี” เสนอเรื่องราวมีความว่า สลด! สำนักพุทธจังหวัดหนึ่งไร้ธรรมาภิบาล ได้งบประมาณจัดการบวชเพื่อเป็นพระราชกุศลสตมวาร (100 วัน) น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของวัดธรรมยุติกนิกายแห่งหนึ่ง แรกแจ้งว่าไม่มีงบประมาณ แต่ภายหลังย่องนำเงินมาให้กลางคืนแต่ไม่เต็มจำนวนงบที่ได้มา 70,000 บาท โดยให้เพียง 40,000 บาท

พระครูโสภณ ธรรมะสโรช เจ้าอาวาสวัดป่าหัวดอน ต.หัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ให้รายละเอียดถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า จากการจัดงานอุปสมบทสตมวาร ครบ 100 วัน น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จสวรรคต ก่อนการจัดอุปสมบทมีการประชุมร่วมฝ่ายสงฆ์ ฆราวาส โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดให้มีการอุปสมบทแจ้งเบื้องต้นว่าไม่มีงบประมาณใช้ในการจัดงาน

แต่คณะสงฆ์ทั้งมหานิกายและธรรมยุติกนิกายก็ยินดีร่วมกันจัดหาเงินบริจาคมาร่วมจัดหาเครื่องบวชให้แก่ประชาชนผู้ที่มีจิตศรัทธาต้องการบวชถวายเป็นพระราชกุศลโดยไม่จำกัดจำนวนในวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏมีผู้เข้าร่วมบวชกับโครงการครั้งนี้ถึง 777 รูป และผู้บวชแยกย้ายไปปฏิบัติธรรมตามวัดต่างๆ ในส่วนของธรรมยุตได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน

กระทั่งวันที่ 19 ก.พ. เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลฯ ติดต่อแจ้งว่าได้รับเงินสนับสนุนโครงการจากจังหวัดเป็นค่าภัตตาหาร และช่วงเย็นวันที่ 21 ม.ค. เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนำเงินสดมาให้กับทางคณะกรรมการวัดจำนวน 40,000 บาท

แต่อีกหลายวันต่อมาเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนานำใบสำคัญรับเงินมูลค่า 70,000 บาท มาให้แม่ครัวของวัดป่าหัวดอนลงลายมือรับทราบ ซึ่งแม่ครัวไม่ทราบเรื่องก็ได้ลงลายมือให้ ทั้งที่ได้เงินมาจริงเพียง 40,000 บาท เมื่อแม่ครัวนำใบเสร็จมาให้พระครูโสภณ ธรรมะสโรช เจ้าอาวาสวัดดู จึงได้ทักท้วงไปสำนักงานพระพุทธศาสนา เพราะจำนวนเงินที่รับจริงไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ลงไว้ในใบสำคัญรับเงิน

พระครูโสภณ ธรรมะสโรช เจ้าอาวาสวัดยังกล่าวว่า รายการใช้จ่ายที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแจงมาในรายละเอียดค่าใช้จ่ายบางรายการไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการบวชถวายเป็นพระราชกุศลในวันนั้นด้วย จึงขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนามาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทางวัดทราบ พร้อมให้ออกหนังสือสำคัญรับเงินตามจำนวนเงินที่วัดรับมาจริงคือ 40,000 บาท ไม่ใช่ 70,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาได้เข้ามาชี้แจงต่อหน้ากรรมการวัด และล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุดที่ 0034/196 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ชี้แจงในส่วนที่ผิดพลาด และวัดก็พอใจแล้ว เพราะต้องการเพียงให้เกิดความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินงบประมาณในโครงการสำคัญดังกล่าว

ด้านนายวิรอด ไชยพรรณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า จังหวัดอุบลราชธานีได้จัดอุปสมบทเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสเสด็จสวรรคตสตมวารครบ 100 วัน เบื้องต้นไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุน จึงจัดประชุมร่วมกับคณะสงฆ์ในจังหวัด และขอรับการอุปถัมภ์เครื่องบวชจากคณะสงฆ์

แต่หลังเสร็จสิ้นการบวชได้รับแจ้งจากทางจังหวัด มีงบประมาณใช้จัดงานให้จำนวน 140,000 บาท จึงได้แบ่งให้มหานิกายและธรรมยุตคณะละ 70,000 บาท และนำไปมอบให้ฝ่ายธรรมยุติกนิกายที่วัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน เพราะเป็นสถานที่ใช้อบรมใช้ปฏิบัติธรรมทางศาสนาใช้จ่ายเป็นค่าภัตตาหารจำนวน 40,000 บาท

ส่วนเงินอีก 30,000 บาท สำนักงานพระพุทธศาสนาได้นำไปใช้ในหมวดอื่นที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามระเบียบ และไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับวัดป่าหัวดอน จึงทำให้เกิดความแคลงใจถึงความคลาดเคลื่อนของเงินที่ได้รับไป หลังเกิดข้อสงสัยสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ชี้แจงรายละเอียดกับคณะสงฆ์จนเป็นที่เข้าใจกันแล้ว

สำนักงานพระพุทธศาสนาได้ทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการเพื่อขอขมาคณะสงฆ์ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความสบายใจแก่คณะสงฆ์ที่ได้รับเงินไปใช้จ่ายในโครงการนี้ด้วยแล้ว

ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานีกล่าวยืนยันอีกว่า ขอให้ประชาชนสบายใจในการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี ทำงานด้วยความโปร่งใส และได้ทำความเข้าใจกับคณะสงฆ์ทันทีที่มีการทักท้วงจนเกิดความเข้าใจดีแล้ว และจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนโครงการจนประสบความสำเร็จด้วยดี




กำลังโหลดความคิดเห็น