xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.ร.ร.สุรินทร์โผล่แจง! ภาพเทปกาวมัดมือ-ปิดตาทำโทษเด็กอนุบาลว่อนเน็ต อ้างเป็นการสอนเชิงสมมติ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพนักเรียนชั้นอนุบาลที่ถูกครูมัธยมทำโทษด้วยการใช้เทปกาวมัดข้อมือและปิดตา โพสต์ในโซเชียลมีเดีย
สุรินทร์ - ผอ.โรงเรียนบ้านสำโรง เมืองช้าง โผล่แจง ภาพแชร์สนั่นโซเชียลฯ เทปกาวปิดตา-รัดมือทำโทษเด็กนักเรียนอนุบาล อ้างเป็นการสอนเชิงสมมติของครูมัธยมหลังพบเด็กอนุบาลหยิบกระดาษที่รุ่นพี่ทำส่งครูมาเล่นเพื่อให้รู้ว่าถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือและขังคุกเป็นอย่างไร ยันไม่มีการทำร้ายเด็ก ชี้โซเชียลมีเดียทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษสังคมและเตรียมหารือผู้ปกครอง

วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเพจในเฟซบุ๊กนามว่า DR.K. v.3 ได้โพสต์รูปภาพจำนวน 1 รูป พร้อมระบุข้อความว่า “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนบ้านสำโรง ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ วันที่ 20/2/2560 พ่อเด็กให้ข้อมูลตามนี้ ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังครับว่า โดนครูมัธยมจับลงโทษด้วยการใช้สก๊อตเทปมัดมือและปิดตา โดยครูได้อ้างว่าน้องฉีกกระดาษหมดไป 3 รีม มีเพื่อนลูกสาวอีกคนก็โดนเหมือนกันแต่ไม่มีภาพ ภาพที่ได้มาคือภาพหลุดคนถ่ายน่าจะเป็นครูประจำชั้นของน้อง”

นอกจากนี้ยังมีข้อความเพิ่มเติมในโพสต์อีกว่า “ส่วนพ่อเด็กสงสัยว่า เด็กอนุบาล (ลูกสาว) ตัวแค่นี้จะเล่นฉีกกระดาษหมด 3 รีมเลยหรือ และครูมัธยมก็เลยทำโทษด้วยการใช้สก๊อตเทปมัดมือ และใส่กระดาษขาวปิดตาแล้วใช้สก๊อตเทปปิดตาลูกสาวเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง แต่เด็กร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่นทั้งตัวเพราะกลัวครูจะเอาไปส่งตำรวจตามที่ครูขู่เอาไว้ และครูได้มัดมือปิดตาเดินจากอาคารมัธยมมาอาคารอนุบาล ซึ่งเด็กก็กลัวไม่รู้ว่าจะโดนอะไรอีก เทปกาวปิดตาก็ไม่เอาออกให้เดินร้องไห้ตัวสั่นเพราะกลัว” ชื่อเฟซบุ๊ก Montri Yomrum พ่อของเด็กที่โดนทำโทษ

ชาวโลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์ดังกล่าวกันอย่างแพร่หลาย พร้อมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานากันอย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังโรงเรียนบ้านสำโรง ม.10 ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเข้าพบ นายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง

นายประทักษิณเปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อตอนเที่ยงเด็กชั้นอนุบาลรับประทานข้าวก่อนเลยว่าง จากนั้นก็มาเล่นบริเวณอาคารเด็กมัธยม ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันก็เล่นไปทั่วตามประสาเด็ก จากนั้นไปหยิบกระดาษของครูพร้อมหลอดกาแฟมาเล่น ซึ่งกระดาษเป็นงานที่นักเรียนรุ่นพี่ทำส่งครู

พอครูกลับเข้ามาเห็นเลยถามไปว่าใครเป็นคนเล่น พี่ ม.3 กับพี่ ป.6 บอกว่าเป็นน้องอนุบาล จากนั้นจึงให้พี่ ป.6 ไปตามน้องอนุบาลมา และถามนักเรียนชั้นอนุบาล ซึ่งยอมรับว่าตนเองเล่น ครูเลยสอนว่าทำอย่างนี้ไม่ถูก และมีครูอีกคนมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น และนำเด็กไปห้อง ม.3 ซึ่งตัวเองสอนอยู่แล้วก็บอกกับเด็กอนุบาลในภาพว่าหนูทำอย่างไร ซึ่งพูดธรรมดาแบบสอนเด็ก ไม่มีการดุด่าและทำร้ายแต่อย่างใด

จากนั้นสอนทั้งเด็กโตและน้องอนุบาล การทำอย่างนี้มันเป็นสิ่งไม่ดี หากโตขึ้นไปทำอย่างนี้ตำรวจจะจับนะ ถ้าตำรวจจับจะต้องใส่กุญแจมือ และให้พี่ ม.3 สาธิตให้ดูโดยการนำผ้าเทปมาพันที่มือน้อง เพื่อให้รู้ว่าหากโดนใส่กุญแจมือจะเป็นอย่างนี้ และหากโดนจับจะต้องเอาไปติดคุกและจะมองไม่เห็นหนทาง ก็ให้รุ่นพี่นำกระดาษทิชชูมาปิดตาและเอากระดาษกาวติดไว้ จากนั้นบอกว่า ต่อไปอย่าทำอีกนะ ทั้งรุ่นพี่ด้วย เป็นการสอนกันเรื่องก็จบ

จากนั้นให้รุ่นพี่พาไปส่งที่ห้องอนุบาล และบอกคุณครูประจำชั้นด้วยว่าน้องเขาทำผิดแบบนี้นะ พอพาไปส่งถึงห้องรุ่นพี่ลืมแกะผ้าเทปออก ครูชั้นอนุบาลเห็นจึงบอกว่า หนูทำไมทำอย่างนี้ ทำรุนแรงเกินไปหรือเปล่า ก็เลยถ่ายรูปไว้

ในกรณีนี้ได้พูดคุยกับผู้ปกครองแล้วคนหนึ่ง ซึ่งเข้ามารับเด็กและเห็นลูกตัวเองโดนเทปกาวรัดมือ พร้อมสอบถามครูประจำชั้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ครูได้เล่าให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจ ไม่ติดใจเอาเรื่องเอาความแต่อย่างใด แต่ผู้ปกครองที่ไม่เห็นตอนเช้าได้เข้ามาและบอกว่าครูทำไมทำรุนแรงกับเด็ก ถึงขั้นรัดมือปิดตาเด็ก คุณครูชี้แจงให้ฟังทีแรกก็ไม่เอาความ จากนั้นกลับไปทำงาน

แต่พอผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงที่ปรากฏในภาพเห็นรูปลูกสาว รับไม่ได้มันรุนแรงกับลูกเกินไป ซึ่งรูปที่ปรากฏออกไปถ่ายตอนที่เด็กนอนลงคล้ายบาดเจ็บ จริงแล้วไม่มีการทำร้ายแต่อย่างใด แต่เด็กตกใจบ้าง ไม่ถึงขั้นเสียขวัญไป

นายประทักษิณเล่าต่อว่า ตามที่ตนได้สอบถามมาทั้งหมด เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการสอนเด็กธรรมดา เพียงแต่ว่าผู้ที่เอารูปมาลงแล้วแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา โดยที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง จากนั้นไปขยายความให้เกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งต่อไปตนต้องรายงานข้อเท็จจริงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร โดยต้องสอบถามให้เสร็จในวันนี้เพื่อที่จะได้รายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและทางอำเภอต่อไป เพราะเรื่องนี้ได้ปรากฏในโลกโซเชียลมีเดียเยอะมากเลยเป็นห่วง

อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรเลย ด้านผู้ปกครองก็ได้พูดคุยเข้าใจทั้งหมด คนที่นำไปโพสต์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้ชี้แจงก็มีความเข้าใจและขอโทษพร้อมลบโพตส์ออกแล้ว ผู้ที่นำรูปไปโพสต์ก็เป็นแม่ของเด็ก ซึ่งทำงานต่างจังหวัด แต่ได้มีการพูดคุยให้เข้าใจแล้วว่าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น มันเป็นการแสดงบทบาทสมมติของครูกับนักเรียนที่สอนเด็ก ซึ่งผู้ปกครองเด็กได้พูดคุยกันแล้วไม่มีการเอาเรื่องแต่อย่างใด และจะนัดคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) เพื่อให้เรื่องจบ

“ขอยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนอยากขอโทษผู้ปกครองและผู้ที่ดูภาพดังกล่าว เจตนาของโรงเรียนเพื่อสอนเด็กให้เป็นคนดีเต็มเปี่ยม แต่ว่าบางทีภาพที่ออกไปไม่ได้บรรยายขยายความก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ พร้อมอยากขอโทษผู้ปกครองและทุกคนทั่วประเทศที่ได้ดูภาพ ให้เข้าใจในเจตนาของครูที่ต้องการสอนเด็ก และขอโทษทุกภาคส่วนที่เห็นภาพนี้แล้วทำให้เกิดความไม่สบายอกสบายใจ ขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด” นายประทักษิณกล่าวย้ำ

ด้าน นางสาวอรุณรัตน์ เสงี่ยมทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 1 บ.สำโรง ต.ศรีณรงค์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผู้เป็นแม่ของน้องอนุบาลที่ปรากฏภาพในโซเชียลมีเดีย เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้คุยกับทางโรงเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างแล้ว ยังไม่ได้มีการเอาความแต่อย่างใด ซึ่งจะนัดพูดคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) ที่โรงเรียนบ้านสำโรง เพื่อหาข้อยุติ ซึ่งผู้เป็นแม่เห็นภาพลูกตัวเองในลักษณะดังกล่าวมันไม่สามารถรับได้
นายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง









กำลังโหลดความคิดเห็น