xs
xsm
sm
md
lg

ทิ้งเงินแสน! หนุ่มกรุงช่างศิลป์หันทำเกษตรผสมผสาน ที่บ้านเมีย จ.บุรีรัมย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุวิทย์  ตะเพียนทอง อายุ 36 ปี  หนุ่มช่างศิลป์ชาวกรุงเทพฯ ทิ้งอาชีพรับจ้างวาดรูปตามโบสถ์วิหารรายได้เดือนละร่วมแสน พลิกชีวิตมาทำเกษตรผสมผสานที่บ้านเกิดเมีย จ.บุรีรัมย์  วันนี้ (22 ก.พ.)
บุรีรัมย์ - หนุ่มช่างศิลป์ชาวกรุงเทพฯ ทิ้งอาชีพรับจ้างวาดรูปตามโบสถ์วิหารรายได้เดือนละร่วมแสน พลิกผันชีวิตมาทำเกษตรผสมผสานที่บ้านเกิดเมีย จ.บุรีรัมย์ ศึกษาเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ตทดลองปลูกทั้งพืชอายุสั้นและยาว หวังใช้ชีวิตมั่นคงมีความสุขได้อยู่กับครอบครัวและดูแลพ่อแม่ เผยปัจจุบันเก็บดาวเรืองขายวันละ 2,000 บาท ชี้หากพืชทุกชนิดออกผลผลิตเต็มที่ทำรายได้กว่า 5 หมื่น/เดือน

วันนี้ (22 ก.พ.) นายสุวิทย์ ตะเพียนทอง อายุ 36 ปี หนุ่มดีกรีปริญญาตรีเอกศิลปะ ชาวกรุงเทพมหานคร และ น.ส.ดวงเนตร ตอบไธสง อายุ 27 ปี ภรรยา ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านหนองบัวลอง ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้ตัดสินใจทิ้งอาชีพช่างศิลป์รับวาดรูปพุทธประวัติตามโบสถ์วิหารต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดตามที่ได้รับว่าจ้าง ที่ทำมากว่า 20 ปี มีรายได้เดือนละเกือบ 1 แสนบาท พลิกผันหันมาทำการเกษตรแบบผสมผสานที่บ้านหนองบัวลอง อ.พุทไธสงจ.บุรีรัมย์ บ้านเกิดของภรรยา

ทั้งนี้เพราะอยากมีอาชีพที่เป็นหลักแหล่ง มั่นคง ไม่ต้องตระเวนรับจ้างไปเรื่อยถึงจะมีค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูงก็ตาม แต่หากมาทำการเกษตรมองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงมากกว่า เพราะนอกจากจะบริโภคในครัวเรือนได้แล้วยังสามารถเก็บผลผลิตขายได้ ที่สำคัญยังได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และยังได้ดูแลพ่อแม่ยามแก่ชราอีกด้วย

ถึงแม้ที่ผ่านมาจะยังไม่เคยทำการเกษตรมาก่อน แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจึงได้ไปขวนขวายหาความรู้วิธีขั้นตอนการปลูกรวมถึงการดูแลรักษาจากอินเทอร์เน็ต มาทดลองปลูกทั้งพืชอายุสั้น เช่น ดอกดาวเรือง ข้าวโพด ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 เดือน สามารถเก็บผลผลิตขายได้

ทั้งยังปลูกพืชระยะยาวที่ให้ผลผลิตตามฤดูกาล เช่น กล้วยหอมทอง มะม่วง และฝรั่งกิมจู รวมเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งขณะนี้เริ่มเก็บผลผลิตดอกดาวเรืองขายได้แล้วเฉลี่ยวันละ 1,000-2,000 บาท เชื่อว่าหากพืชทุกชนิดที่ปลูกไว้ออกผลผลิตเต็มที่แล้วจะมีรายได้จากการเก็บผลผลิตขายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000-50,000 บาท

นายสุวิทย์ ตะเพียนทอง ยอมรับว่า อาชีพเกษตรกรไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะกับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ เพราะนอกจากจะปลูกให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพแล้วเรื่องการตลาดเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่หากมีความมุ่งมั่นตั้งใจและไม่ย่อท้อ เชื่อว่าไม่น่าจะยากเกินความพยายาม ซึ่งตนกับภรรยาจะพยายามศึกษาหาความรู้ทั้งจากอินเทอร์เน็ต และจากคนรอบข้างที่เคยทำการเกษตรมาก่อน

ทั้งนี้ คาดหวังว่าหากปลูกพืชทั้งระยะสั้นและยาวได้ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้จะทำให้ครอบครัวมีอาชีพที่มั่นคงและความสุข เพราะได้อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องตระเวนรับจ้างไปเรื่อยเหมือนที่ผ่านมา


นายสุวิทย์  ตะเพียนทอง อายุ 36 ปี

กำลังโหลดความคิดเห็น