บุรีรัมย์ - เกษตรกร อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ปรับพื้นที่นาหันปลูกแตงกวาระบบน้ำหยดขายช่วงหน้าแล้ง สามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้วันละ 200-400 กก. สร้างรายได้ไม่น้อยกว่าวันละ 3,000-5,000 บาท เผยแต่ละปีปลูกได้ 4 ครั้ง มีรายได้ครั้งละหลายหมื่นบาท
วันนี้ (21 ก.พ. 60) เกษตรกรบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ปรับพื้นที่นา เพื่อปลูกแตงกวาด้วยระบบน้ำหยดแทนทำนาปรัง ซึ่งสาเหตุที่เกษตรกรเลือกปลูกแตงกวาเพราะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยดูแลง่ายและมีอายุสั้นเพียง 1 เดือนเศษก็สามารถเก็บผลผลิตได้ ประกอบกับปีนี้ทางภาครัฐได้ประกาศให้งดทำนาปรังเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรหันมาปลูกแตงกวาแล้วเกือบ 10 ราย เฉลี่ยรายละ 2-4 ไร่ สามารถเก็บผลผลิตได้วันละ 200-400 กิโลกรัม นำไปขายทั้งปลีกและส่งที่ตลาด อ.สตึก
ช่วงนี้แตงกวาจะมีราคาค่อนข้างสูง โดยราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 14 บาท ขายปลีกกิโลกรัมละ 20 บาท ทำให้มีรายได้วันละ 3,000-5,000 บาท โดยแต่ละปีจะสามารถปลูกได้ถึง 4 ครั้งเพราะใช้เวลาปลูกสั้นเพียง 1 เดือนเศษเท่านั้น แต่ละครั้งจะเก็บผลผลิตขายได้หลายหมื่นบาท
นายภูวเดช วรอัศวภูมิ อายุ 33 ปี เกษตรกรบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่สองที่หันมาปลูกแตงกวาระบบน้ำหยดแทนทำนาปรัง เพราะแตงกวาเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยและมีอายุสั้นเพียงเดือนเศษก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้ว ปีนี้ตนปลูกทั้งหมด 4 ไร่ สามารถเก็บผลผลิตได้วันละกว่า 400 กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 14 บาท จะมีรายได้วันละกว่า 5,000 บาท ซึ่งแต่ละครั้งจะสามารถเก็บผลผลิตได้ 20-30 วันแล้วแต่การดูแลรักษา ทำให้แต่ละครั้งจะมีรายได้จากการขายแตงกวาหลายหมื่นบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี