xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งปูพรมตรวจสอบสถาบันการเงินชุมชน จี้สอบขั้นตอนกู้เงินเหตุผู้ค้ำประกันไม่ตรงกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายโสภา อ่อนพรรณนา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 ม.5 บ้านเกิ้ง ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในสมาชิกสถาบันการเงินบ้านท่าคันโทหมู่ 9 ที่มีปัญหา
กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งปูพรมตรวจสอบสถาบันการเงินชุมชนในพื้นที่อำเภอท่าคันโท หวั่นชาวบ้านถูกหลอกเหมือนกับสถาบันการเงินชุมชนบ้านท่าคันโท ม.9 ขณะที่ชาวบ้านตั้งข้อสงสัย ไม่เคยรู้จักกับผู้ค้ำประกันแต่กลับมาค้ำประกันให้ จี้ตรวจสอบขั้นตอนกู้เงินอย่างละเอียด พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และดีเอสไอเข้าตรวจสอบ ด้านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าคันโทเตรียมตั้งโต๊ะสอบรายบุคคล

จากกรณีชาวบ้านหลายตำบลในเขตอำเภอท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนถูกสถาบันการเงินชุมชนบ้านท่าคันโท หมู่ที่ 9 หลอกให้เซ็นสัญญากู้เงินจากธนาคารออมสินสาขา อ.ท่าคันโท รายละ 200,000 บาท จนมีผู้เสียหายกว่า 300 ราย ใน 4 ตำบล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือพิสูจน์ความจริงเพราะไม่มีปัญหาชำระหนี้

ล่าสุดวันนี้ (19 ก.พ.) นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายอำเภอท่าคันโท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ปูพรมตรวจสอบขยายผลไปยังสถาบันการเงินชุมชนต่างๆ ที่ยกระดับมาจากเงินกองทุนหมู่บ้านเป็นสถาบันการเงินชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ท่าคันโท ว่าสถาบันการเงินใดบ้างที่ได้เข้าร่วมโครงการเงินกู้ร่วมกับธนาคารออมสิน เพื่อตรวจสอบบัญชีการเงิน เส้นทางการเงิน

รวมถึงกิจกรรมที่นำเงินไปลงทุนว่าถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่เพื่อป้องกันปัญหา โดยเฉพาะสถาบันการเงินชุมชนบ้านท่าคันโท ม.9 เพื่อแยกความเสียหายระหว่างชาวบ้านกู้จริง และสิ่งที่ชาวบ้านอ้างว่าถูกหลอกให้เข้าร่วมลงทุน ซึ่งจะได้เงิน 10,000 บาท ว่าถูกหลอกจริงหรือไม่

นายโสภา อ่อนพรรณนา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 ม.5 บ้านเกิ้ง ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในสมาชิกสถาบันการเงินบ้านท่าคันโท หมู่ 9 กล่าวว่า ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงหนังสือบอกเลิกสัญญาและให้ชำระหนี้ตามโครงการสินเชื่อองค์กรชุมชนรายย่อยอเนกประสงค์ของธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท ซึ่งแจ้งให้ชำระหนี้เงินกู้ 2 แสนบาท งวดละ 4,200 บาท ระยะเวลา 60 งวด

ทั้งนี้ เนื่องจากรายชื่อผู้ค้ำประกัน 1 ใน 2 คนที่ค้ำประกันให้ตนนั้นไม่เคยรู้จักกันและไม่ใช่เพื่อนสมาชิกไปทำสัญญากู้เงินที่ธนาคารออมสิน คือเมื่อครั้งที่ทำสัญญากู้เงินมีตน คือ นายโสภา อ่อนพรรณนา นายเดชา ทอดภักดี และนายสมชาย สาระวัน รวมกลุ่มกัน 3 คน ต่างคนต่างค้ำทำสัญญากู้เงินให้กัน

แต่ในหนังสือกลับมีชื่อ นางจิตฎาภา วงค์ไพรเดช ซึ่งไม่รู้จักเป็นผู้ค้ำแทนนายสมชาย สาระวัน ซึ่งตนไม่เคยได้รับแจ้งเปลี่ยนรายชื่อผู้ค้ำประกันจากสถาบันการเงินแต่อย่างใด แต่กลับมีชื่อมาเป็นผู้ค้ำประกันให้กับตนได้อย่างไร และจนถึงขณะนี้ตนก็ไม่ทราบว่ารายชื่อของตนนั้นไปโผล่ที่หนังสือค้ำประกันกู้เงินให้กับใครบ้าง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบด้วย

นายโสภากล่าวอีกว่า การบอกเลิกสัญญาและบังคับให้ชำระหนี้ของธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโทสร้างความกังวลใจแก่สมาชิกสถาบันการเงินท่าคันโทหมู่ 9 เกือบ 300 คน เพราะในขั้นตอนการทำสัญญาชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ทำนิติกรรมมอบอำนาจ และเซ็นชื่อในเอกสาร ทั้งเพื่อเปิดบัญชี และกู้เงินกับธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท เพื่อหวังเงินสดจำนวน 10,000 บาท ตามที่สถาบันการเงินชุมชนบ้านท่าคันโท ม.9 ชักชวน

แต่เงินที่เหลืออีกกว่า 190,000 บาท ทราบแต่เพียงว่าสถาบันการเงินบ้านท่าคันโทหมู่ 9 นำไปบริหารจัดการและปล่อยกู้อีกต่อหนึ่ง ซึ่งมีหลายคนไม่ทราบเลยว่าต้องการเงิน 200,000 บาท

ขณะที่ นายพลานุภาพ ธพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากทางอำเภอท่าคันโทได้รับเรื่องร้องทุกข์ และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วนั้น ทางผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ก็ได้กำชับให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้เตรียมที่จะตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นรายบุคคลและทำการสอบถามข้อเท็จจริงเป็นรายบุคคลว่าทราบก่อนหรือไม่ว่าตนเองกู้เงินกับธนาคารหรือไม่ หรือไม่ทราบแต่ถูกหลอกให้กู้ ซึ่งหากเป็นลักษณะนี้ก็จะเข้าข่ายหลอกลวงและฉ้อโกง จึงจำเป็นต้องแยกกลุ่มผู้เสียหายออกเป็นรายๆ ไป
กำลังโหลดความคิดเห็น