กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านอำเภอท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เรียกร้องให้ภาครัฐพิสูจน์ความจริง และเรียกร้องให้ทหารใช้ ม.44 และดีเอสไอเข้าตรวจสอบสถาบันการเงินชุมชนบ้านท่าคันโท หลังถูกสถาบันการเงินชุมชน หมู่ที่ 9 หลอกให้เซ็นสัญญากู้เงินจากธนาคารออมสิน รายละ 200,000 บาท จนมีผู้เสียหายมากถึง 4 ตำบล ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
กรณีชาวบ้านหลายตำบลในเขตอำเภอท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่า ถูกสถาบันการเงินชุมชน หมู่ที่ 9 หลอกให้เซ็นสัญญากู้เงินจากธนาคารออมสิน รายละ 200,000 บาท จนมีผู้เสียหายมากถึง 4 ตำบล เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือพิสูจน์ความจริง เพราะไม่มีปัญญาชำระหนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เริ่มส่งหนังสือทวงเงินจนเกิดความเครียด บางครอบครัวเป็นหนี้กว่า 1 ล้านบาท
จากปัญหาดังกล่าว ล่าสุด วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมกับ นายพลานุภาพ ธพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม และฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหา 4 ตำบล ในเขตอำเภอท่าคันโท ประกอบด้วย ต.นาตาล ต.กรุงเก่า ต.กุดจิก ต.ยางอุ้มและโดยเฉพาะที่ ต.ท่าคันโท โดยได้เข้าไปติดตามความเป็นอยู่ และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่ที่ 9 พื้นที่ตั้งของสถาบันการเงินชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้กับธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท
ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างพากันจับกลุ่มคุยกันเพื่อหาทางออกของปัญหา แต่ส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่สามารถที่จะชำระหนี้ให้แก่ทางธนาคารออมสินได้ เนื่องจากไม่เคยได้รับเงินครบตามจำนวนรายละ 200,000 บาท แต่ยอมรับว่าได้ทำนิติกรรมในการมอบอำนาจแล้วทำการเปิดบัญชีกับธนาคารออมสิน เพื่อหวังเงินสด จำนวน 10,000 บาทเท่านั้น
และมารู้ตัวเองว่าเป็นหนี้ธนาคารออมสิน เพราะได้รับหนังสือทวงถามจากธนาคาร และมีหนังสือจากทนายความของธนาคาร โดยยืนยันว่า ชาวบ้านที่ร่วมโครงการนี้ทั้งหมดถูกหลอกให้ไปทำสัญญา และลงทุน
โดยเฉพาะครอบครัวของ นางวิไลวรรณ มณีจันทร์ หมู่ที่ 2 ต.กรุงเก่า อ.ท่าคันโท ทั้งครอบครัวเป็นหนี้จากเงินกู้ธนาคารออมสิน จำนวน 600,000 บาท ซึ่งได้เปิดเผยต่อทีมข่าว โดยกล่าวว่า ครอบครัวของตนถูกหลอก ก็เพราะการจูงใจของสถาบันการเงินชุมชนที่ชักชวนทำนิติกรรมแล้วจะได้รับเงินคนละ 1 หมื่นบาท จึงได้นำตัวเอง สามี และลูกทำนิติกรรม โดยไม่รู้ว่าจะมีเงินผ่านบัญชีถึงคนละ 2 แสนบาท
นางวิไลวรรณ ระบุว่า ต้องการให้จังหวัดเร่งทำการพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพราะครอบครัวไม่มีปัญญาชำระหนี้แน่นอน และในขณะนี้จากหนังสือทวงถาม ได้กลายเป็นหนังสือจากทนายความของธนาคารออมสิน ยื่นคำขาดให้ชำระหนี้ทุกคน ครอบครัวเกิดความเครียด อีกทั้งหากในอนาคตถูกดำเนินคดีก็คงจะต้องติดคุกทั้งครอบครัว จึงขอให้รัฐบาลได้ใช้ทหารเข้ามาใช้ ม.44 ในการเรียกร้องความเป็นธรรม และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบ ทั้งนี้ ในส่วนเงินจำนวนคนละ 1 หมื่นบาท ก็พร้อมที่จะคืนให้ทันที
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ลงพื้นที่สอบถามปัญหา เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ได้ทยอยส่งเอกสารไปตามบ้านของประชาชนเพื่อส่งคำสั่งทวงถามให้ประชาชนผู้เป็นหนี้กับธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท มาชำระหนี้ ซึ่งได้ส่งกระจัดกระจายไปเกือบทั้งอำเภอ เบื้องต้น คาดว่าจะมีผู้เสียหายมากกว่า 800 ราย หรือมากกว่า 100 ล้านบาท
ขณะที่ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการช่วยเหลือจะเน้นไปที่ความรับผิดชอบของสถาบันการเงินชุมชน หมู่ที่ 9 ซึ่งจะทำการแยกปัญหาระหว่างการกู้จริง และกลุ่มผู้อ้างว่าถูกหลอก โดยจะให้ศูนย์ดำรงธรรม เป็นพี่เลี้ยงในการติดตาม โดยเฉพาะการตรวจสอบเพื่อขอข้อมูลจากสถาบันการเงินถึงกรณีที่อ้างว่าได้นำเงินทั้งหมดไปปล่อยกู้แล้วแต่ไม่สามารถจัดเก็บได้เป็นความจริงหรือไม่
“ส่วนประชาชนเองที่เชื่อว่าถูกหลอกก็ให้ไปดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันปัญหาด้านอายุความ เพื่อเตรียมการพิสูจน์ก่อนทำการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารออมสินต่อไป”