จันทบุรี - อากาศแปรปรวน หนาวๆ ร้อนๆ ส่งผลกระทบต่อสวนลำไยส่งออก หลังผลไม่โต ผลแตก และขายไม่ได้ราคา ขณะที่เจ้าของสวนต้องว่าจ้างแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาเก็บผลผลิตลำไย หวั่นจะขาดทุน ขณะที่ล้งรับซื้อลำไยประสบปัญหาแรงงานขาดแคลน
วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่แหล่งปลูกลำไยส่งออกของ นายจงรักษ์ จิตมั่น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 1 ตำบลทับช้าง อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เจ้าของสวนลำไยส่งออก พบว่า นายจงรักษ์ กำลังว่าจ้างให้แรงงานชาวกัมพูชาเร่งเก็บผลผลิตลำไย เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีสภาพอากาศที่แปรปรวน หนาวๆ ร้อนๆ ทำให้ลำไยที่ปลูกไว้มีผลไม่โต และผลแตก รวมทั้งไม่ได้ราคาตามต้องการ
ส่วนผู้รับซื้อต้องประสบปัญหาแรงงานขาดแคลน และการขนแรงงานเข้าสวน ที่ทางจังหวัดให้บังคับใช้กฎหมายจากเดิมที่สามารถบรรทุกแรงงานเข้าสวนนั่งท้ายรถยนต์กระบะได้ 25 คน แต่ปัจจุบันต้องเหลือแค่ 15 คน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีรถยนต์กระบะขนแรงงานชาวกัมพูชาเข้าสวนลำไยประสบอุบัติเหตุทำให้มีแรงงานได้รับบาดเจ็บหลายราย
ซึ่งปัญหานี้ต้องตกไปอยู่กับเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่จะต้องมีภาระค่าขนแรงงานเข้าสวนเพิ่มเป็น 2 เท่า ทำให้ไม่มีผลกำไรสักเท่าไร ประกอบกับในช่วงนี้ราคาลำไยส่งออกอยู่ที่กิโลกรัมละ 42 บาท แต่เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ผลผลิตลำไยโตไม่เต็มที่ ลูกแตก จึงไม่ได้ราคาตามต้องการ ส่วนเรื่องแรงงานที่ขาดแคลนนั้นอยากให้ทางจังหวัดได้ทบทวน และแก้ไขปัญหาด่วนหากว่าเก็บลำไยไม่ทันกำหนดก็จะทำให้เกิดผลเสียเป็นวงกว้าง และขาดทุนไปอีก
นายวีรวัฒน์ นิ่มอ่อน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/5 หมู่ที่ 5 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ผู้รับซื้อลำไย กล่าวว่า สภาพอาการที่แปรปรวนทำให้มีผลต่อลำไยส่งออกหลังผลต่อช้า และมีเพลี้ยลง ทำให้ตนเองได้พยายามหาทางป้องกันฉีดยา นอกจากนี้ แรงงานไม่พอที่จะเข้ามาเก็บลำไยเพราะมีกฎหมายบังคับใช้ใหม่ทำให้ตนเองต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มในการขนแรงงานเข้ามาในสวน