xs
xsm
sm
md
lg

“ตั๊น” ตั้งวงคุย กปปส.เชียงราย ชูมือหนุน คสช.-บิ๊กตู่ ปฏิรูปประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - สาวตั๊น-ผู้ช่วยเลขาฯ มูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ขึ้นเหนือ ตั้งวงคุยแกนนำ-เครือข่าย กปปส.เชียงราย ชูมือหนุน คสช.-บิ๊กตู่ ปฏิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือ “ตั๊น” กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย แนวร่วม กปปส. ได้เดินทางไปพบปะกับอดีตกลุ่มผู้ร่วมเคลื่อนไหวในนาม กปปส.ในพื้นที่ จ.เชียงราย เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ที่ห้องประชุมร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงราย

โดยมีนายกนก วิศวกุล อดีตประธาน กปปส.เชียงราย พร้อมด้วยมวลชน เช่น นายสมาน ท่อทิพย์, นายบดินทร์ กินาวงศ์ อดีต กกต.อ.เมือง เชียงราย, นายธีรศักดิ์ เลาหะวีร์ กรรมการผู้จัดการเครือสินธานี ฯลฯ รวมประมาณ 40 คน เข้าร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็น

น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า ตนดีใจมากที่ได้พบปะกับคนที่เคยทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่วมกันมานานร่วม 7 เดือน และไม่ได้พบปะกันมากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งจนถึงวันนี้ตนยืนยันว่ายังมีอุดมการณ์เหมือนเดิม แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันก็สนับสนุนการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และร่างรัฐธรรมนูญใหม่

ส่วนเรื่องการปฏิรูปประเทศนั้น ทาง คสช.ได้ตั้งคณะกรรมการและสภาต่างๆ ขึ้นมาหลายชุดแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าในยุคนี้คงจะไม่มีรัฐบาลใดจะสามารถทำได้แบบนี้ จึงถือเป็นรัฐบาลเดียวที่จะทำได้ เพราะมีอำนาจเบ็ดเสร็จและชัดเจนถือเป็นความหวัง

“ในฐานะพวกเราเคยเสนอเรื่องการปฏิรูปไปยังรัฐบาลแล้ว ซึ่งก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไป เช่น การปฏิรูปตำรวจเห็นว่ากำลังมุ่งมั่นเรื่องสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อยู่ เป็นต้น”

น.ส.จิตภัสร์กล่าวอีกว่า ในภาพรวมการปฏิรูปทั้งหมดจะทำได้ก็ต้องเป็นยุครัฐบาลนี้เท่านั้น หากเป็นชุดอื่นหรือแม้แต่เป็นกลุ่มพวกเรา ถ้าได้เข้าไปบริหารประเทศคงจะโดนกระทำตั้งแต่ยกแรกไปแล้ว ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธาน คสช.และนายกรัฐมนตรี นั้น จากการได้สัมผัสก็เห็นว่าพยายามรับรู้เรื่องราวต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นความหวังในการเป็นผู้นำยุคปฏิรูปเช่นนี้ได้

สำหรับตนแล้วจะเดินหน้าทำงานเพื่อส่วนรวมต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยพยายามไปเป็นตำรวจเพราะเห็นใจข้าราชการระดับชั้นประทวน แต่เมื่อไม่ได้เป็นก็ไม่เป็นไร ส่วนการเปลี่ยนนามสกุลของตนมาเป็นนามสกุลของฝ่ายแม่นั้น เพราะตระกูลเรามีธุรกิจที่มีพนักงานหลายแสนคน ในยุคที่มีการแบ่งแยกชัดเจนก็ทำให้พวกเขาได้รับแรงกดดัน จึงได้เปลี่ยนเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือดังกล่าว สมาชิกที่เข้าร่วมหลายคนได้แสดงความคิดเห็น เสนอให้ทาง คสช.บริหารประเทศต่อไป โดยต้องมีการปฏิรูปเพื่อไม่ให้บ้านเมืองกลับไปสู่สภาพที่เกิดความแตกแยก และมีความไม่รู้ทางการเมือง รวมถึงทุจริตคอร์รัปชันเหมือนเดิมอีก

นายบดินทร์เสนอว่า ในอนาคตจะมีพรรคการเมือง 10-15 พรรค ซึ่งเสียงข้างน้อยจะมีคุณค่า จากเดิมคนที่เลือกตั้งแล้วแพ้ไปเพียงไม่กี่คะแนนกลายเป็นคนไม่มีคุณค่าหรือบทบาท คาดว่าจะทำให้ระบบเผด็จการลดลง พร้อมขอเสนอให้มีการจัดการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นให้ดีก่อนเพื่อปูพื้นฐานให้การเลือกตั้งระดับประเทศต่อไป

ผู้เข้าร่วมบางคนเสนอให้ คสช.อยู่ทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าการปฏิรูปจะแล้วเสร็จอย่างแท้จริง โดยให้แก้ไขปัญหาการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นหัวคะแนนของนักการเมืองระดับสูงทั้งสิ้น ขณะที่บางคนเสนอให้ คสช.ปฏิรูปตำรวจ พลังงาน การศึกษา การเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องความไม่รู้บทบาทของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเพราะมุ่งรับเงินอย่างเดียว หรือแม้แต่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก็ไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง มุ่งเข้าไปหาเงินอย่างเดียว

นอกจากนี้ยังมีบางคนเสนอให้ทุกฝ่ายเร่งเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิทธิหน้าที่ที่ถูกต้องและการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่สถานศึกษา ขึ้นป้ายทุกทางร่วม-ทางแยก ทางสื่อสาธารณะหรือโซเชียลมีเดียให้มากๆ

“ถ้า คสช.ไม่ยึดอำนาจเมื่อปี 2557 กปปส.คงตายกันเป็นเบือ จึงขอให้ปฏิรูปการศึกษาเพื่อไม่ให้คนกลับไปโง่กันอีก” นายสมานกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น