อุบลราชธานี - ตำรวจสอบเพื่อนเด็กหญิงที่ร่วมค้าประเวณี หวังหาข้อมูลหลักฐานมัดเอาผิดแม่เล้า เผยชอบมั่วสุมกินเหล้า มักมีผู้ชายเข้ามาจีบ หากพอใจใครก็ไปร่วมหลับนอน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จับกุม น.ส.เนาวรัตน์ บังศรี อายุ 38 ปี ข้อหาเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี หลังเป็นนายหน้าส่งเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ไปขายบริการทางเพศ และผู้ปกครองของเด็กจับได้ พาเด็กเข้าแจ้งความดำเนินคดี แต่แม่เล้ารายนี้ยังให้การปฏิเสธตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.วารินชำราบ นำตัว ด.ญ.นุ่น อายุ 14 ปี และ น.ส.ก้อย อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มของ ด.ญ.นิด ที่มารดาพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.เนาวรัตน์ บังศรี แม่เล้า เพื่อขยายผลใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์เพิ่มเติมจากที่ได้แจ้งข้อหาไว้เบื้องต้นแล้ว
จากการสอบถามของทีมสหวิชาชีพ เด็กหญิงทั้ง 2 คน ให้การตรงกันว่า รู้จักกับ ด.ญ.นิด ผู้เสียหายจริง เพราะไปมั่วสุมกินเหล้ากันที่บ้านของ น.ส.เนาวรัตน์ โดย ด.ญ.นุ่น และ น.ส.ก้อย ปัจจุบันไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว แต่มีหน้าตาสะสวยจึงรับจ้างเต้นโคโยตี้ตามงานแสดงเครื่องเสียงติดรถยนต์ มีผู้ชายมาชักชวนไปหลับนอน
บางครั้งก็ไปโดยสมัครใจไม่ได้คิดเงิน บางครั้งก็มีการติดต่อผ่าน น.ส.เนาวรัตน์ หรือไปเองจะได้ไม่ถูกหักค่านายหน้าจาก น.ส.เนาวรัตน์
ซึ่งหลังการสอบสวนของทีมสหวิชาชีพนานกว่า 2 ชั่วโมง จะนำข้อมูลที่ได้จากเด็กทั้ง 2 คนมาสรุปเพื่อดูว่าการกระทำของ น.ส.เนาวรัตน์ เข้าข่ายความผิดกฎหมายในข้อใด และเข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือไม่ แล้วจะได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.เนาวรัตน์ ซึ่งเป็นนายหน้าจัดหาเด็กหญิงไปขายบริการในครั้งนี้
พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.วารินชำราบ กล่าวว่า การนำสืบจากเด็กหญิงที่เป็นเหยื่ออีก 2 ราย มีเป้าหมายขยายผลติดตามไปถึงผู้ที่มาซื้อบริการ รวมถึงจะใช้เป็นมาตรการเสนอให้มีการยึดทรัพย์สินของ น.ส.เนาวรัตน์ หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายของการค้ามนุษย์ นอกเหนือจากที่ได้แจ้งข้อหาเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไว้เบื้องต้นแล้ว ซึ่งต้องรอให้ทีมสหวิชาชีพสรุปข้อมูลที่ได้รับจากเด็กหญิงทั้ง 2 คน เพิ่มเติม
ขณะที่ น.ส.เนาวรัตน์ หลังเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบปากคำแล้วให้การปฏิเสธ ร.ต.อ.กิตติพงศ์ ตังควานิช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้นำตัวไปฝากขังกับศาลจังหวัดอุบลราชธานี และศาลไม่ให้ประกันตัว เพราะเกรงหลบหนีเนื่องจากโทษมีอัตราสูง จึงถูกควบคุมตัวส่งเข้าเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรอดำเนินคดีต่อไป