อุตรดิตถ์ - เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารร้านค้าเก่าแก่อายุเกือบครึ่งศตวรรษกลางตลาดทุ่งยั้ง เมืองลับแล พ่อค้า-แม่ค้าเจ้าของอาคาร ต้องขนข้าวของหนีตายกันโกลาหล เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงสกัดกว่าครึ่งชั่วโมงถึงเอาอยู่ พบวอดหมด 5 คูหา
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 14.08 น. ร.ต.อ.เอกพงษ์ ตุ่นกอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ด่านแม่คำมัน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ต้องเร่งเดินทางไปตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้อาคารร้านค้า และที่อยู่อาศัยที่ก่อสร้างด้วยไม้ 2 ชั้น บริเวณสามแยกตลาดสดเทศบาลตำบล (ทต.) ทุ่งยั้ง อ.ลับแล ตรงข้ามกับวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง อย่างเร่งด่วน
เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก ทต.ทุ่งยั้ง เทศบาลเมือง (ทม.) อุตรดิตถ์ ทต.หัวดง อ.ลับแล และทหารค่ายพระศรีพนมมาศ หรือทหารปืนใหญ่ที่ 20 กว่า 5 คัน กำลังระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ขณะที่บรรดาเจ้าของอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ต่างพากันขนสิ่งของเท่าที่สามารถขนได้ออกจากจุดไฟไหม้อย่างโกลาหล
เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดถนนสายอุตรดิตถ์-พระแท่นศิลาอาสน์-ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย จุดเกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยดับเพลิงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมไฟได้ พบเพลิงไหม้อาคารได้รับความเสียหายจำนวน 5 ห้อง ความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
นายชวลิต ประภัสสร นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งยั้ง กล่าวว่า เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดที่บริเวณชั้นสองของอาคารไม้ห้องแรก ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่อาศัยของประชาชน จากนั้นเปลวไฟก็ลุกลามไปยังห้องใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นอาคารไม้อายุเกือบ 50 ปีที่ปลูกสร้างติดกันนับสิบคูหา จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี
“แต่โชคดีเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน หากเป็นเวลากลางคืนอาจเสียหายมากกว่านี้”
ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลดวงวงจร เนื่องจากสายไฟฟ้าที่เดินภายในอาคาร และตัวอาคารเองก็ก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี แต่เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป