กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดงานทุ่งปอเทืองบาน เพื่อรณรงค์การปลูกปุ๋ยพืชสดบำรุงดินในฤดู และสร้างมูลค่าเพิ่มด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ตลอดทั้งเป็นสวนดอกไม้แห่งความสุขต้อนรับเทศกาลวันวาเลนไทน์
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านปอแดง ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายมงคล อดทน รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงานทุ่งปอเทืองบาน โดยมีนายภิญโญ สุวรรณชนะ ผอ.สำนักงานที่ดินเขต 5 ขอนแก่น นายสุทธิดล วงษ์จันฬา ผอ.สถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมอดินอาสา เกษตรกร ร่วมงานจำนวนมาก
นายสุทธิดล วงษ์จันฬา ผอ.สถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลและกรมพัฒนาที่ดินได้รณรงค์ให้มีการลดต้นทุนการผลิตภาคการเกษตร และเพื่อผลผลิตที่ปลอดภัย โดยให้ดำเนินการส่งเสริมเกษตรกรปรับปรุงบำรุงดินในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการไถกลบตอซัง และปลูกปอเทือง ซึ่งจะเป็นปุ๋ยพืชสด ย่อยสลายง่าย สามารถฟื้นฟูสภาพดิน และทำให้เกิดอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์ต่อพืช
ทั้งนี้ สถานีพัฒนาที่ดินได้รณรงค์ส่งเสริมการปลูกปอเทืองในฤดูแล้ง เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรได้ปรับปรุงสภาพดินและสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งทางด้านจิตใจ การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ เพราะผลดีของการปลูกปอเทืองนั้น ปลูกง่าย ดูแลง่าย ให้ดอกสีสวยเหลืองอร่าม สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเกิดรายได้จากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ โดยในฤดูกาลนี้ ทั่ว จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอมีเป้าหมายปลูกปอเทืองประมาณ 13,000 ไร่
ตอนนี้มีพื้นที่ปลูกปอเทืองแล้วกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งทางสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ ยังประกันราคารับซื้อเมล็ดพันธุ์คืนจากเกษตรกร กก.ละ 17-21 บาทตามค่าความชื้น พื้นที่ 1 ไร่ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 250 กก. ซึ่งเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวจะได้นำไปแจกจ่ายเกษตรกรที่สนใจปลูกปอเทืองในฤดูกาลต่อไป
ด้านนางอรอุมา ภูพาดสี เจ้าของแปลงสาธิตปลูกปอเทือง กล่าวว่า เดิมพื้นที่นาของตน 15 ไร่ในฤดูแล้งจะปลูกข้าวนาปรัง แต่ระยะหลังประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำจากปัญหาน้ำไม่เพียงพอ และราคาข้าวตกต่ำ เมื่อปีที่แล้วจึงพลิกผืนนาเป็นทุ่งปอเทือง โดยเข้าร่วมโครงการกับสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ โดยการหว่านปอเทืองทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในพื้นที่ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นอย่างดีแล้ว
ยังเกิดรายได้จากการขายเมล็ดปอเทืองอีกด้วย โดยเฉพาะสามารถฟื้นฟูสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีถึง 50% หรือไม่ได้ใช้เลย แต่ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกถึง 50% เช่น ผลผลิตข้าวจากเดิมได้ไร่ละ 350 กก. หลังจากปลูกปอเทืองบำรุงดินสามารถเพิ่มผลผลิตได้ถึงไร่ละ 700 กก.อีกด้วย
นางอรอุมากล่าวอีกว่า เมื่อปลูกปอเทืองในฤดูแล้งชดเชยการปลูกข้าวนาปรังได้ผล ในปีนี้จึงได้ปลูกปอเทืองอีก และมีเพื่อนเกษตรกรหันมาปลูกกันมาก นอกจากนี้ เนื่องจากดอกปอเทืองอยู่ในช่วงบานสะพรั่งสีเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง ในแต่ละวันจึงมีประชาชน บุคลากรจากส่วนราชการและองค์กรต่างๆ มาแวะชม ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจำนวนมาก ประกอบกับเข้าสู่เทศกาลวันวาเลนไทน์พอดี
จึงได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว จัดโซนถ่ายภาพ ให้ประชาชน หนุ่มสาว คู่รัก มาชมทุ่งปอเทืองบาน หรือทุ่งปอเทืองแห่งความสุขอย่างเต็มที่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ