ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ขนส่งเชียงใหม่ออกคำสั่งนายทะเบียนสั่งระงับการใช้รถทัวร์คันที่เกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกขโมยเงินจากกระเป๋าสัมภาระรวมเฉียด 1 แสนบาท และปล่อยทิ้งก่อนถึงปลายทาง หลังตรวจสอบพบมีการดัดแปลงสภาพรถและเครื่องยนต์ โดยเฉพาะช่องลับจากหลังที่นั่งคนขับทะลุถึงห้องเก็บของใต้ท้องรถ พร้อมสั่งปรับผู้ประกอบการและถอนใบขับขี่พนักงานขับรถ
ความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวชาวบราซิล และอิสราเอล รวม 5 คน นั่งรถทัวร์ป้ายหมวด 30 จากย่านบางลำพู กรุงเทพฯ มาเที่ยวเชียงใหม่ แต่กลับถูกนำมาทิ้งที่ปั๊มน้ำมันย่านอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ แทนที่จะส่งถึงปลายทาง อีกทั้งยังถูกขโมยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เงินไทย และเงินอิสราเอล คิดรวมเป็นเงินกว่า 9 หมื่นบาท จนต้องเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 60
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถทัวร์ต้องสงสัยคันดังกล่าว หมายเลขทะเบียน 32-2076 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในพื้นที่อู่ซ่อมรถ บริเวณทางแยกบ้านป่าบง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรอรับผู้โดยสารกลับกรุงเทพฯ จึงนำรถทัวร์คันดังกล่าว รวมทั้งคนขับ และพนักงานประจำรถ มาตรวจสอบที่สถานีตำรวจภูธรสารภี พร้อมให้ผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันว่าเป็นรถคันที่โดยสารมาจริง
วันนี้ (8 ก.พ. 60) ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และพันโท ณัฐนันท์ สุขะหุต รองหัวหน้ากองกำลังพล มณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกันทำการตรวจสอบรถทัวร์คันดังกล่าวที่ทางตำรวจได้ทำการอายัดไว้ โดยพบว่าได้มีการเจาะช่องลับด้านหลังที่นั่งคนขับรถทะลุไปยังห้องเก็บกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารใต้ท้องรถ และมีการดัดแปลงเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522
ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า เบื้องต้นทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ซึ่งพบว่ารถคันดังกล่าวได้มีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ทั้งการดัดแปลงสภาพเครื่องยนต์ และมีการดัดแปลงสภาพตัวรถด้วยการทำช่องลับจากด้านหลังที่นั่งคนขับรถไปยังห้องเก็บสัมภาระของผู้โดยสาร ที่เกิดเหตุการณ์ลักขโมยเงินของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้พบว่ามีการนำรถทัวร์คันดังกล่าวที่เป็นรถโดยสารไม่ประจำทางมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารทับเส้นทางของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตด้วย
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้มีการดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย ด้วยการออกคำสั่งนายทะเบียนขนส่งระงับการใช้รถทัวร์คันดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 60 จากการที่มีการดัดแปลงสภาพรถ พร้อมทั้งมีการสั่งปรับผู้ประกอบการเจ้าของรถทัวร์ดังกล่าวฐานนำรถโดยสารไม่ประจำทางมาวิ่งทับเส้นทาง และจากการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนด ในด้านมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย โดยปล่อยปละละเลยให้มีการลักขโมยทรัพย์สินของผู้โดยสาร ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ขณะเดียวกัน จะทำการถอนทะเบียนรถคันดังกล่าวนี้ออกจากใบอนุญาตประกอบการขนส่ง รวมทั้งยึดใบขับขี่ของพนักงานขับรถคันดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะย่อมมีส่วนรู้เห็นในพฤติกรรมดังกล่าว ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถหาหลักฐานมาดำเนินคดีได้ก็ตาม แต่พฤติการณ์แวดล้อมบ่งบอกและน่าสงสัย
ขณะที่รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนพนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ รวมถึงผู้ที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าว เพื่อที่จะติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ซึ่งทุกฝ่ายได้มีการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทันที และได้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด
ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนที่กำลังจะเดินทางมาเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้มั่นใจได้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะไม่ปล่อยปละละเลยกับการก่อเหตุอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถ้าหากผู้ใดพบเห็นการกระทำความผิดก็สามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พร้อมจะดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนอย่างเต็มที่
ด้านรองหัวหน้ากองกำลังพล มณฑลทหารบกที่ 33 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้จะได้มีการนำไปเป็นกรณีศึกษาและนำเรียนผู้บังคับบัญชา เพื่อที่จะทำการขยายผลให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารในทุกพื้นที่ได้ช่วยกันสอดส่อง และกวดขัน เพื่อไม่ให้มีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับความสงบเรียบร้อย