เชียงใหม่ - ตำรวจตามอายัดรถทัวร์ป้ายทะเบียน 30 ต้องสงสัย ทิ้ง 5 นักท่องเที่ยวบราซิล-อิสราเอลลงปั๊มสารภีก่อนถึงปลายทางเชียงใหม่ แถมขโมยเงินไปอีกเกือบแสน พบมีช่องลับอยู่หลังคนขับทะลุถึงห้องเก็บกระเป๋าใต้ท้องรถด้วย เชื่อผู้โดยสารโดนกันเยอะ
รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวชาวบราซิล และอิสราเอล รวม 5 คน นั่งรถทัวร์ป้ายหมวด 30 มาจากย่านบางลำพู กรุงเทพมหานคร มาเที่ยวเชียงใหม่ แต่กลับถูกนำมาทิ้งที่ปั๊มน้ำมันย่าน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แทนที่จะส่งถึงปลายทาง อีกทั้งยังขโมยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เงินไทย และเงินสกุลเชกเกอร์ ของอิสราเอล คิดรวมเป็นเงินกว่า 9 หมื่นบาท จนต้องเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจวานนี้ (6 ก.พ.)
(อ่านเรื่องประกอบใน : ฉาวอีก! ทัวร์ 30 รับนักท่องเที่ยวจากบางลำพู ทิ้งปั๊มสารภี-ฉกเงินอีกเกือบแสน)
ล่าสุดวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถทัวร์ต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดอยู่ในพื้นที่อู่ซ่อมรถ บริเวณทางแยกบ้านป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อรอรับผู้โดยสารกลับกรุงเทพฯ จึงนำรถ รวมทั้งคนขับ และพนักงานประจำรถ มาตรวจสอบที่ สภ.สารภี พร้อมให้ผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันว่าเป็นรถคันที่โดยสารมาจริง
จากการตรวจสอบของตำรวจ และเจ้าหน้าที่ขนส่งเชียงใหม่พบช่องลับด้านหลังคนขับด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุดไปตามช่องดังกล่าว พบมีความยาวประมาณ 3 เมตร ทะลุไปยังห้องเก็บกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารใต้ท้องรถได้
อย่างไรก็ตาม คนขับ และพนักงานประจำรถยืนยันว่าเป็นช่องปกติ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินนักท่องเที่ยวที่หายไป และตำรวจก็ไม่พบเงินของกลางด้วย
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่ เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ ระหว่างทางช่วงที่มีการจอดรถรับประทานอาหารคนร้ายคงจะใช้เทคนิคขโมยเงินในกระเป๋าของนักท่องเที่ยวไปบางส่วนเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวรู้ตัว เมื่อคนร้ายได้เงินนักท่องเที่ยวแล้วน่าจะมีเพื่อนร่วมแก๊งมารับเงินไปอีกทอดหนึ่ง
“เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าวน่ามีมากกว่า 20 คน บางคนอาจยังไม่รู้ว่าถูกขโมยเงินไป แต่เมื่อไม่พบหลักฐานในการทำความผิดจึงยังไม่สามารถดำเนินคดี หรือแจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดได้”
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้อายัดรถคันดังกล่าวไว้ให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจสอบว่ามีการดัดแปลงสภาพรถหรือไม่ รวมทั้งสอบปากคำคนขับ และพนักงานประจำรถที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต่างก็ขอบคุณตำรวจไทยเป็นอย่างมากที่สามารถติดตามรถคันดังกล่าวมาได้
ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ยืนยันว่าจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวาดล้างจับกุมรถทัวร์โดยสารป้าย 30 ที่วิ่งรับผู้โดยสารผิดประเภทต่อไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศ