หนองคาย - รองเจ้าคณะตำบลสังคม หนองคาย ระบุตรวจสอบคลิปพระฉาวดื่มเบียร์แล้ว พบเป็นคลิปเดิมแต่ถ่ายหลายมุม เป็นความผิดลหุโทษ ไม่ถึงขั้นปาราชิก เคยว่ากล่าวตักเตือนแล้ว ขอความเป็นธรรมให้พระ ทำตัวดีขึ้นแล้ว ขณะที่ชาวบ้านประชาคมให้พระอยู่ต่อ เห็นใจเป็นพระนักพัฒนา
จากกรณีที่มีคลิปพระสงฆ์นั่งดื่มเบียร์ในกุฏิถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น เมื่อนายยงเวทย์ ศรีจันทร์ทอง ปลัดอำเภอสังคมฝ่ายความมั่นคง อ.สังคม จ.หนองคาย ได้ออกตรวจสอบที่วัดท่าสองคอน ต.บ้านม่วง อ.สังคม โดยพระเลิศชัย ชัยธรรมโม อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัด ยอมรับว่าเป็นพระในคลิปจริง แต่เป็นเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว และได้รับผิดชอบด้วยการยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านม่วงแล้ว แต่หากจะถูกให้ลาสิกขาก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพระชั้นผู้ใหญ่
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (3 ก.พ.) พระครูบรรพต ธรรมานุวัตร รองเจ้าคณะตำบลสังคม เปิดเผยว่า ได้ทราบเรื่องแล้วและตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคลิปเดิมจากครั้งที่เคยตรวจสอบเมื่อปีที่ผ่านมา อาจเป็นการแอบถ่ายหลายครั้งในคราวเดียวกันแล้วค่อยนำคลิปมาปล่อย ในครั้งแรกที่คลิปถูกเผยแพร่ออกมานั้น ทางพระพุทธสาระสุทธิ เจ้าคณะอำเภอสังคม ได้เรียกพระเลิศชัยมาสอบสวนและตั้งกรรมการสอบวินัยไปแล้ว พระเลิศชัยเองก็ยอมรับว่าเป็นตัวเองจริง และขอรับผิดโดยการลาออกจากการเป็นเจ้าคณะตำบล แต่ยังคงเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ทางคณะกรรมการเห็นว่าเป็นความผิดลหุโทษ ไม่ถึงขั้นปาราชิก และได้ตรวจสอบแล้วว่าพระเลิศชัยไม่ได้ลักลอบดื่มเหล้าเบียร์ หรือกระทำการที่ผิดวินัยร้ายแรงจนถึงขั้นปาราชิก จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้กระทำผิดซ้ำอีก และในครั้งนี้เมื่อพบว่าเป็นคลิปเดิมแต่ถ่ายคนละมุมก็ถือเป็นการกระทำที่ผ่านมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ จึงจะไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และอยากขอความเป็นธรรมให้กับพระเลิศชัยด้วยเพราะทุกวันนี้อยู่อย่างหวาดผวาแถมสุขภาพยังไม่แข็งแรงด้วย
ขณะที่นายยงเวทย์ ศรีจันทร์ทอง ปลัดอำเภอสังคม กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้านายอาญา ถาไชยรา ผู้ใหญ่บ้านม่วง รายงานให้ทราบว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านได้ประชุมกันเพื่อลงความเห็นถึงกรณีนี้ว่าจะให้พระเลิศชัยอยู่ต่อหรือไม่ ชาวบ้านร้อยละ 90 เห็นว่าพระเลิศชัยเป็นพระที่ดี เป็นนักพัฒนามาอยู่แล้ววัดเจริญขึ้น แต่การดื่มเบียร์เป็นความผิดพลาดพลั้งเผลอที่ให้อภัยได้ เพียงแต่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกก็จะให้อยู่ที่วัดต่อไป
ด้านนายรุ่งสุริยา เมืองเหลา นักวิชาการศาสนาชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.หนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมติของคณะสงฆ์อำเภอสังคม ว่าจะพิจารณารูปแบบใด ทางสำนักพุทธฯ เป็นผู้ติดตาม และรับฟังรายงาน พร้อมทั้งให้คำตักเตือนพระสงฆ์ร่วมด้วย แต่ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้ง