ชาวบ้านบัวสามัคคีร้องโรงสีเขต อ.สมเด็จปล่อยฝุ่นพิษ

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านบัวสามัคคี อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้องโรงสีข้าวปล่อยฝุ่นละอองและเสียงดัง แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากเทศบาลตำบลแซงบาดาล ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบพื้นที่ กระทบชาวบ้านเดือดร้อนล้มป่วยเป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และผื่นคัน

วันนี้ (2 ก.พ. 60) นางสาวชุลีพร ภูสมศรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายกฤษฎา สุขอนันต์ นักวิเคราะห์นโยบายโกเมน ผิวพุ่ม หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสมเด็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แซงบาดาล ตัวแทนจากเทศบาลตำบลแซงบาดาล และผู้นำชุมชน ร่วมกันเข้าตรวจสอบโรงสีข้าวของนายเกรียง ยุระพันธ์ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.6 บ้านบัวสามัคคี ต.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์

หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่าโรงสีข้าวดังกล่าวก่อให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย และส่งเสียงดังรบกวน ซึ่งชาวบ้านระบุว่าเคยแจ้งเรื่องไปยังเทศบาลตำบลแซงบาดาล ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบพื้นที่มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับแก้ไขและช่วยเหลือ ส่งผลให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เป็นโรคหอบหืด และเด็กเล็กมีผื่นคันตามตัวเนื่องจากแพ้ฝุ่นละออง

จากการตรวจสอบพบว่าโรงสีข้าวดังกล่าวเป็นโรงสีขนาดเล็ก มีเครื่องสีข้าวไม่เกิน 15 แรงม้า ซึ่งตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน มีนายเกรียง ยุระพันธ์ อายุ 79 ปี เป็นเจ้าของ ซึ่งบริเวณรอบโรงสีทั้งต้นไม้ หลังคาบ้านประชาชน เสื้อผ้ามีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังพบว่าชาวบ้านหลายรายยังเป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด และเด็กเล็กมีผื่นคันขึ้นตามตัวเนื่องจากแพ้ฝุ่นจากโรงสี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจากับเจ้าของโรงสีและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นได้ให้เจ้าของโรงสีสีข้าวที่ตกค้างจนหมดแล้วให้หยุดสีข้าวทันที และให้แก้ไขปรับปรุง โดยประสานงานไปยังช่างของเทศบาลตำบลแซงบาดาลให้มาลงพื้นที่ออกแบบแก้ไขปรับปรุง โดยการสร้างกำแพงกั้นบริเวณจุดปล่อยแกลบออกจากเครื่องสีข้าว เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น ซึ่งกำหนดการแก้ไขปรับปรุงไม่เกิน 15 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง

นางชุติมา วงศ์ถามาตร อายุ 35 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองและเสียงดังที่เกิดจากโรงสีข้าวแห่งนี้เกิดมาหลายปีแล้ว ชาวบ้านอย่างน้อย 10 หลังคาเรือนที่เดือดร้อน เคยแจ้งเรื่องไปยังเทศบาลตำบลแซงบาดาลหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับแก้ไข ต้องเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน เพราะตนเอง และชาวบ้านหลายรายป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด เนื่องจากสูดดมฝุ่นมานาน นอกจากนี้ยังมีเด็กเล็กที่มีผื่นขึ้นตามตัว เป็นโรคผิวหนัง เนื่องจากแพ้ฝุ่น และในช่วงกลางวันของทุกวันๆ จะต้องหอบลูกหอบหลานไปอยู่ที่อื่น รอจนกว่าโรงสีจะหยุดสีข้าว

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขจากเทศบาลตำบลแซงบาดาล ชาวบ้านเข้าไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ซึ่งก็ได้ลงพื้นที่เข้ามาแก้ไขปัญหาร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรม โดยให้เจ้าของโรงสีทำการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งหากแล้วเสร็จชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งว่าสามารถป้องกันฝุ่นได้จริงหรือไม่

ด้านนายเกรียง ยุระพันธ์ อายุ 79 ปี เจ้าของโรงสี กล่าวว่า ขณะนี้นายโกเมน ผิวพุ่ม หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าโรงสีดังกล่าวนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลแซงบาดาลเพราะตามกฎหมายได้ถ่ายโอนให้ท้องถิ่นแล้ว แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชนทางสำนักงานอุตสาหกรรม ศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นได้ให้เจ้าของโรงสีหยุดสีข้าว และให้ปรับปรุง โดยจะประสานไปยังช่างเทศบาล ต.แซงบาดาลให้มาออกแบบเพื่อป้องกันฝุ่น ใช้เวลาดำเนินการ 15 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งว่ายังเกิดฝุ่นเหมือนเดิมหรือไม่